พร้อมทั้งเห็นชอบยกเว้นการปฏิบัติตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 28 ก.ค.52 เรื่อง การทำสัญญาระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเอกชนและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่กำหนดให้การทำสัญญาไม่ควรระบุในสัญญาให้มอบข้อพิพาทให้คณะอนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาด เนื่องจากร่างข้อตกลงฉบับนี้ จำเป็นที่จะต้องกำหนดวิธีการระงับข้อพิพาท โดยให้คณะอนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาด เพื่อให้สอดคล้องกับร่างข้อตกลงเบื้องต้น(Head of Agreement, HOA) สำหรับการร่วมกันผลิตปิโตรเลียมแหล่งสุริยา-สุริยา เซลาตัน ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ครม.เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.52
สาระสำคัญของร่างข้อตกลงดังกล่าวเป็นการกำหนดสิทธิและพันธะระหว่างองค์กรร่วมและ PETRONAS รวมถึงการดำเนินงานและการจัดการในการร่วมกันพัฒนาและผลิตปิโตรเลียมแหล่งสุริยา-สุริยา เซลาตัน ในพื้นที่ร่วมผลิต(Unit Area) มีขนาด 173.226 ตารางกิโลเมตร(อยู่ในเขตพื้นที่พัฒนาร่วม 142.017 ตารางกิโลเมตรและพื้นที่ของประเทศมาเลเซีย 31.209 ตารางกิโลเมตร) โดยกำหนดสัดส่วนแบ่งปันผลผลิตปิโตรเลียมเบื้องต้น(Initial Tract Participation) คือ แปลง A-18 ได้รับร้อยละ 85 และแปลง PM 2 ได้รับร้อยละ 15 และสามารถทำการประเมินสัดส่วนการแบ่งผลผลิตปิโตรเลียมใหม่(Re-determination) ทุก 5 ปี ในกรณีที่ผลการประเมินมีความแตกต่างกันโดยรวมเกินกว่าร้อยละ 3 ให้มีการปรับสัดส่วนแบ่งปันผลผลิตและแบ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามสัดส่วนผลผลิตดังกล่าว
ทั้งนี้ให้ใช้แผนการพัฒนาของแปลง A-18 และขายก๊าซในราคาตามที่กำหนดในสัญญาซื้อขายก๊าซแปลง A-18 และให้มีคณะกรรมการ Unit Management Committee ฝ่ายละ 4 คนเท่าๆ กัน ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารจัดการและกำกับดูแลการดำเนินงาน โดยร่างข้อตกลงดังกล่าวได้ยกร่างขึ้นภายใต้หลักการและอยู่ในกรอบของข้อตกลงเบื้องต้นที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลทั้งสองแล้ว
สำหรับร่างข้อตกลงฉบับนี้มีสาระสำคัญและหลักการเช่นเดียวกับร่างข้อตกลงว่าด้วยการร่วมผลิตปิโตรเลียมระหว่างแหล่งภูมี-ภูมีใต้ ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ครม.เมื่อวันที่ 18 ม.ค.54