สำหรับสาเหตุที่เพิ่มผลปาล์มเข้ามาในบัญชี เพราะที่ผ่านมาราคาผลปาล์มสดผันผวน และผลผลิตไม่แน่นอน ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร และผู้บริโภค ดังนั้นจึงต้องการติดตามการเคลื่อนไหวของราคาตั้งแต่ต้นทาง กลางทางและปลายทาง พร้อมกับให้ติดป้ายราคาผลปาล์มให้ชัดเจน
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้เพิ่มมาตรการกำกับดูแลสินค้าควบคุมเดิมให้มีความเข้มงวดเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มนมสด นมกล่อง นมยูเอชที นมพาสเจอไรซ์ต่อไป โดยผู้ผลิตจะต้องทำเรื่องขออนุญาตกรมการค้าภายใน ก่อนปรับราคาทุกครั้ง จากเดิมที่ให้แจ้งเพื่อทราบเท่านั้น เพราะแนวโน้มวัตถุดิบ และนมผงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
รวมถึงให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลกลุ่มสินค้าเกษตร ได้แก่ พันธุ์ข้าวเปลือก โดยได้กำหนดให้ผู้รับซื้อพันธุ์ข้าวจะต้องแจ้งที่มาที่ไปของการรับซื้อ และสถานที่จัดเก็บให้ชัดเจน อีกทั้งยังกำหนดให้มีการควบคุมการขนย้ายข้าวสารปริมาณตั้งแต่ 5 ตันขึ้นไป โดยผู้จะขนย้ายต้องแจ้งสถานที่ ปริมาณ ก่อนขนย้าย เพื่อป้องกันการแอบอ้างสวมสิทธิเกษตรกรไทย
ขณะเดียวกัน ยังกำหนด ให้ควบคุมการขนย้ายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปริมาณตั้งแต่ 10 ตันขึ้นไป และมันสำปะหลังตั้งแต่ 5 ตันขึ้นไป โดยผู้ขนย้ายจะต้องแจ้งสถานที่ ปริมาณ ก่อนขนย้าย เพื่อป้องกันการแอบอ้างสวมสิทธิแก่เกษตรกร พร้อมทั้งให้ขยายระยะเวลาการแจ้งนำเข้าปุ๋ยเคมีชนิดเม็ด และชนิดผง ยกเว้นชนิดน้ำ เพิ่มจาก 15 วัน เป็น 30 วัน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการตรวจสอบเอกสาร ส่วนการดูแลค่าบริการบำรุงรักษา และซ่อมรถยนต์ ยังไม่มีการพิจารณานำเข้าสู่บัญชีสินค้าควบคุมในครั้งนี้ แต่จะสั่งให้มีการปิดป้ายค่าบำรุงรักษา และค่าซ่อมอย่างชัดเจน