นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปี 2556 ตั้งเป้าหมายยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนไว้ที่ประมาณ 600,000-700,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับปกติเท่า ๆ กับปีที่ผ่านๆ มา แม้จะต่ำกว่าเป้าหมายปี 2555 ที่มียอดขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 1.46 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 29.7 มูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 131 มีการจ้างงานรวม 348,866 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.6 โดยกว่าร้อยละ 50 เป็นนักลงทุนญี่ปุ่น รองลงมาคือ เนเธอร์แลนด์และสิงคโปร์
"ยอดขอรับการลงทุนเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์หรือมีการก่อตั้ง BOI มา ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนประเทศญี่ปุ่น รองลงมาคือ เนเธอร์แลนด์และสิงค์โปร์ เพราะนักลงทุนเชื่อมั่นในนโยบายของ BOI มากขึ้น" รมว.อุตสาหกรรม กล่าว
ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยการเมืองที่นับเป็นปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนใช้พิจารณาตัดสินใจ ซึ่งตนเชื่อว่า จากนี้ไปการเมืองในประเทศไทยจะดีขึ้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา สร้างผลกระทบเสียหายต่อประเทศชาติ ดังนั้นหากร่วมกันรักษาความสงบเรียบร้อยรักษาการเมืองให้มีเสถียรภาพซี่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ เพื่อเป็นทิศทางสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุน เชื่อว่า การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วงเดือนธันวาคมปี 2555 ที่เข้ามามากเพราะเชื่อว่า การเมืองไทยน่าจะมีแนวโน้มที่ดี
ด้านนายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการ BOI กล่าวว่า นโยบายส่งเสริมการลงทุนใหม่ปี 56 ที่คาดว่า จะแล้วเสร็จในช่วงกลางปีนี้ เพื่อให้นักลงทุนได้พิจารณายื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนต่อไปนั้น จะยังคงส่งเสริมอุตสาหกรรมใช้แรงงานเข้มข้นต่อไป แต่ต้องเป็นอุตสาหกรรมที่มีการนำเทคโนโลยีมาปรับเพื่อใช้สร้างทักษะแก่แรงงานหรือเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูงก็ยังให้การส่งเสริมการลงทุนต่อไป
"เป้าหมายยุทธศาสตร์การลงทุน อยากให้อุตสาหกรรมมีฐานความรู้ ความสามมารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น และสามารถยกระดับห่วงโซ่การผลิตของภาคอุตสาหกรรม"
อย่างไรก็ตาม ยังส่งเสริมให้เกิดคลัสเตอร์อุตสาหกรรมใหม่ในแต่ละภูมิภาคและพื้นที่ชายแดน เพื่อกระจายความเจริญ อีกทั้งยังมีเป้าหมายลดภาระทางการคลังของประเทศ โดยใช้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากรอย่างคุ้มค่า
สำหรับปัจจัยในปี 2556 มีทั้งปัจจัยบวกและลบโดยปัจจัยลบที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดือ เศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้นหรือไม่ทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ
ส่วนปีนี้มียอดอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 980,000 ล้านบาท กว่า 2,200 โครงการ โดยประเทศญี่ปุ่นจะขอยื่นลงทุนมากที่สุดกว่า 700 โครงการ มีเงินทุนจดทะเบียนกว่า 40,000 ล้านบาท ส่วนวงเงินนำมาลงทุนอยู่ระหว่างรวบรวม