ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่ง หลังอีซีบีไม่ได้ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.42% แตะที่ 1.3249 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3063 ดอลลาร์สหรับ เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.79% แตะที่ 1.6148 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6021 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.44% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 88.260 เยน จากระดับ 87.870 เยน และดิ่งลง 1.11% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9148 ฟรังค์ จากระดับ 0.9251 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.72% แตะที่ 1.0588 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0512 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.62% แตะที่ 0.8446 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8394 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรทะยานขึ้นแข็งแกร่งหลังจากอีซีบีมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ขณะเดียวกัน อีซีบีไม่ได้ประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายที่จะประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและรอดูโอกาสที่เหมาะสมก่อนที่จะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรครั้งใหม่

ยูโรได้แรงหนุนหลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสเปนสามารถประมูลขายพันธบัตรเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5.8 พันล้านยูโรในวันนี้ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ระดับ 4-5 พันล้านยูโร ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืม ลดลงในการประมูลครั้งแรกของปีในวันนี้

นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังแข็งแกร่งขึ้นหลังจากจีนเปิดเผยว่ายอดการส่งออกของจีนในปี 2555 เพิ่มขึ้น 7.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนยอดส่งออกในเดือนธ.ค.ขยายตัว 14% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าระหว่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 2.311 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2555 ซึ่งพุ่งขึ้น 48.1% จากปี 2554

ส่วนเงินปอนด์พุ่งขึ้นหลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) เมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษยังได้ตัดสินใจที่จะไม่ขยายโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 3.75 แสนล้านปอนด์ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้