5. การสร้างความรู้กับความเข้าใจด้าน Productivity Improvementกับผู้ประกอบการ 6. การจัด Focus Group เพื่อรับฟังประเด็นปัญหา/ความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs 7. พัฒนาสินค้า SMEs ให้ได้มาตรฐาน 8. เพิ่มศักยภาพฝีมือแรงงาน 9. ส่งเสริม Venture Capital ซึ่งเป็นแหล่งทุนที่สำคัญของ SMEs อีกทางหนึ่ง 10. ผลักดันรูปแบบความช่วยเหลือทางด้านการเงินต่างๆ สำหรับ SMEs (Financial Package) อาทิ Productivity Improvement Loan 11. การสร้างเครือข่ายในกลุ่ม ASEAN และ สนับสนุนการการค้า / ลงทุนระหว่าง SMEs ไทย กับ SMEs ASEAN 12. F.T.I Factory Outlet ส่งเสริมช่องทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการ SMEs 13. ให้คำปรึกษาสร้างยุทธศาสตร์เชิงรุก AEC ให้กับผู้ประกอบการ
นอกเหนือจากโครงการ “SMEs We Care" ที่จะช่วยเหลือ SMEs ไทยโดยตรงแล้ว สภาอุตสาหกรรมฯ ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผลักดันมาตรการที่เหลืออยู่ต่อภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังดำเนินการหาแนวทางการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบการ เพื่อพัฒนาศักยภาพเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถปรับตัว อีกทั้งมีภูมิคุ้มกัน และยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการได้
นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า การปรับค่าขึ้นค่าแรง 300 บาท ทั่วประเทศ ที่มีผลไปแล้วเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2556 ทำให้เกิดผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อม หรือ SMEs ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่แตกต่างกัน ทำให้ไม่สามารถแบกรับภาระต่อไปได้เนื่องจากต้นทุนการประกอบการที่สูงขึ้น อีกทั้งมาตรการที่ได้รับการอนุมัติจากภาครัฐจำนวน 5 มาตรการนั้น ยังเป็นมาตรการที่ยังไม่ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs และเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุด อาทิ มาตรการทางด้านภาษี และสินเชื่อที่ออกมานั้น ให้ประโยชน์เพียงผู้ประกอบการที่สามารถผ่านวิกฤติได้ด้วยตนเอง โดยที่มาตรการภาษีจะส่งเสริมให้มีความสามารถในการทำกำไรได้เพิ่มขึ้น มีรายได้มากขึ้น หรือหากสามารถกู้ยืมเงินเพื่อขยายงาน ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น การเปลี่ยนเครื่องจักร เปลี่ยนอุปกรณ์ เป็นต้น ซึ่งไม่ตรงกับเป้าหมายที่สภาอุตสาหกรรมฯ เสนอไป คือ ต้องการให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลาง และเล็ก หรือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ซึ่งอาจจะเกิดจากการมองเห็นปัญหาในมุมมองที่แตกต่างกัน โดยภาครัฐอาจเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันเรื่อง การชดเชยส่วนต่างค่าแรง ที่เห็นว่ามีความจำเป็นอย่างมาก ซึ่งสภาอุตสาหกรรมฯ จะร่วมกับ กกร. ผลักดันอย่างต่อเนื่อง