ทั้งนี้ เฟด และ OCC ได้ออกเอกสารเพื่อสั่งการว่า คณะกรรมการบริหารของเจพีมอร์แกนจะต้องยื่นแผนที่เป็นลายลักษณ์อักษรในการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมความเสี่ยง, การตรวจสอบบัญชีภายใน และการดำเนินงานด้านการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คณะกรรมการบริหารจะต้องจัดทำกลไกการชดเชยสำหรับการบริหารจัดการระดับสูงที่มีผลลัพธ์ที่มีความเสี่ยงและความไร้ประสิทธิภาพในการควบคุม
เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ปีที่แล้ว ตลาดการเงินทั่วโลกตกอยู่ในภาวะตื่นตะลึงหลังจากพี มอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐยอมรับว่า ธนาคารขาดทุนอย่างไม่คาดคิดจากการทำธุรกิจเทรดดิ้งเป็นวงเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในช่วง 6 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเก็งกำไรที่ผิดพลาดในตราสารอนุพันธ์ของ Chief Investment Office ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านบริหารความเสี่ยงของเจพี มอร์แกน นายเจมี ไดมอน ประธานบริหารของเจพีมอร์แกนกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การขาดทุนครั้งนี้มีสาเหตุมาจาก "ความผิดพลาด, ความประมาท และการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง" ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวได้ฉุดราคาหุ้นเจพีมอร์แกนร่วงลงเกือบ 7% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กวันต่อมา ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นอื่นๆในกลุ่มธนาคาร รวมถึงซิตี้กรุ๊ป, โกลด์แมน แซคส์ และแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลงอย่างหนักเช่นกัน