รายงานดังกล่าวระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงเปราะบางและมีแนวโน้มที่จะสร้างความผิดหวังให้กับตลาด แม้ว่าความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะปรับตัวขาลงนั้น มีน้อยกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ตาม
ทั้งนี้ ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวเพียง 2.3 ในปี 2555 และขยายตัว 2.4% ในปี 2556 จากนั้นจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นสู่ระดับ 3.1% ในปี 2557 และขยายตัว 3.3% ในปี 2558
ธนาคารโลกคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.2% ในปี 2555 และจะขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ระดับ 1.9% ในปี 2556 เนื่องจากปัญหาด้านการคลัง ขณะเดียวกันคาดว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัวลง 0.1% ในปี 2556 ก่อนที่จะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งที่ 0.9% ในปี 2557 และขยายตัว 1.4% ในปี 2558
นอกจากนี้ ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ 7.9% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ 8.2% และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวรวดเร็วขึ้นสู่ระดับ 8.4% ในปี 2556
นายฮันส์ ทิมเมอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายแนวโน้มการพัฒนาของธนาคารโลกกล่าวว่า "ความอ่อนแอของประเทศที่มีรายได้สูงกำลังส่งผลกระทบต่อการเติบโตของประเทศที่กำลังพัฒนา แต่อุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งและการเติบโตของเศรษฐกิจจะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาสามารถต้านทานกับวิกฤตการณ์ได้ ซึ่งหลักฐานที่ชัดเจนก็คือ กลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีส่วนผลักดันในการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2555 เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน"
สำหรับสหรัฐนั้น ธนาคารโลกเตือนว่า ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการคลังจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต แม้การหดตัวด้านการคลังอันเนื่องมาจากภาวะหน้าผาการคลัง หรือ fiscal cliff ได้ผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม นอกจากนี้ ความขัดแย้งเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาตกอยู่ในความเสี่ยงด้วย