รมช.เกษตรฯเล็งชูมาตรการภาษี BOI จูงใจอุตสาหกรรมยางรถยนต์ตปท.ตั้งฐานในไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 16, 2013 16:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในงานสัมมนา"มองอนาคตยางพาราไทยในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลก"ว่า สถานการณ์โลกที่ส่งผลให้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าไปมากทำให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นตาม โดยปัจจุบันอยู่ที่ 102 บาท/กิโลกรัม แต่การส่งออกยางกลับเกิดความชะลอตัว เนื่องจากผู้ประกอบการที่ส่งออกจะต้องเสียเงินสงเคราะห์การทำสวนยาง(ค่า CESS) 5 บาท ทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าส่งออก แต่เชื่อว่าการลงทุนของภาครัฐที่มีการลงทุนพัฒนาระบบการคมนาคมในประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ยางพาราภายในประเทศให้เพิ่มมากขึ้น สามารถทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เพราะหากมีความต้องการใช้รถยนต์ก็ทำให้มีความต้องการยางเพิ่มขึ้นด้วย

ส่วนมาตรการระยะยาวจะเชิญชวนประเทศที่มีอุตสาหกรรมยางยนต์ เช่น สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ให้มาตั้งฐานในประเทศไทยให้มาก-ขึ้น โดยใช้มาตรการทางภาษีของสำนักงานส่งเสริมการลงทุนมาจูงใจ ขณะที่เศรษฐกิจโลกดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะผู้ซื้อยางรายใหญ่ที่สุดของไทยคือ ประเทศจีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ซึ่งก็เป็นข่าวดีที่จะมีความต้องการยางมากขึ้น ดังนั้น เชื่อว่าแนวโน้มราคายางจะปรับตัวขึ้นอีก และจะสดใสอย่างแน่นอน

รัฐบาลพร้อมผลักดันยางพาราทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านปริมาณหรือมูลค่าเพื่อทำให้ไทยขึ้นเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน โดยวันที่ 10 เมษายน 56 จะมีการจัดงานวันยางพาราไทย มองว่าควรจะเป็นงานอาเซียนรับเบอร์เดย์ด้วย เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางในอาเซียน นอกจากนี้การที่จะทำให้ยางพาราไทยมีเสถียรภาพได้นั้น มองเรื่องการใช้ยางภายในประเทศเป็นหลักกว่าการพึ่งพาการส่งออก เนื่องจากการส่งออกมีความไม่แน่นอนสูง ควรผลักดันให้มีการใช้ยางในประเทศมากขึ้น เช่น ทำถนนยางพารา เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ