6 องค์กรใหญ่ของประเทศ ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และบมจ. ซีพี ออลล์ (CPALL) ร่วมส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาด้านนวัตกรรมของชาติ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs มีช่องทางและตลาดทดลองสิ่งใหม่ๆ เพื่อต่อยอดผลงานไปสู่นวัตกรรมระดับประเทศ
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ไอซีที) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนาม “โครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ" ระหว่าง 6 องค์กรใหญ่ของประเทศว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีงานวิจัย องค์ความรู้ และสิ่งประดิษฐ์จำนวนมากที่มีศักยภาพ เป็นของดี แต่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ เนื่องจากขาดการต่อยอดหรือขยายผลไปสู่ผลงานเชิงนวัตกรรม
"โดยส่วนตัวมีความเชื่อมั่นในศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย เพราะคนไทยเป็นคนเก่ง มีความสามารถ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ แต่นวัตกรรมที่เรียกว่าสำเร็จ ไม่ใช่เพียงมีความเป็นไปได้ทางเทคนิคเท่านั้น หากแต่นวัตกรรมที่ทำมาจะต้องเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคม ผู้บริโภค และตลาดได้ ดังนั้นหากมีการสนับสนุนให้เกิดการต่อยอด หรือขยายผลงานไปสู่การใช้ประโยชน์จริงนั้น จะมีส่วนช่วยในการยกระดับประเทศเป็นอย่างมาก" นายวรวัจน์ กล่าว
ด้านนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า SMEs จำนวนไม่น้อยที่ประสบกับปัญหาและความท้าทายกับการแข่งขันในตลาดที่มีคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่า และในขณะเดียวกันการมีต้นทุนที่สูงขึ้นจากผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง 300 บาท ทำให้ SMEs จำเป็นต้องปรับปรุงและพัฒนาตนเองให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น โดยการเร่งสร้างความแตกต่างด้วยการนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้กับการดำเนินธุรกิจ
จากปัญหาดังกล่าว สภาอุตสาหกรรมฯ จึงได้พยายามเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ SMEs โดยคาดหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มศักยภาพขององค์กรให้สามารถพัฒนาสินค้าและบริการให้แปลกใหม่ ทันสมัยและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางด้านการตลาด สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า รวมไปถึงสามารถแข่งขันกับคู่แข่ง ทั้งในประเทศ ระดับอาเซียน และระดับโลกได้
ขณะที่นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า เมื่อธุรกิจเติบโตถึงจุดที่ต้องการขยายกิจการอย่างก้าวกระโดด ตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) พร้อมที่จะเป็นกลไกช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุน ตลอดจนการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในอนาคต และสามารถแข่งขันได้ในตลาดสากล ที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนกลไกในระบบเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและมั่นคงต่อไป
ส่วนนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPALL เปิดเผยว่า ยินดีที่จะเป็นช่องทางจัดจำหน่ายเพื่อทดสอบตลาดของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านความร่วมมือของโครงการนี้ ทั้งยังได้จัดตั้ง “ศูนย์นวัตกรรมกลุ่มธุรกิจ ซีพี ออลล์" ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ระหว่างกลุ่มธุรกิจ ซีพี ออลล์ กับหน่วยงานภายนอก รวมถึงยังเป็นช่องทางเชื่อมโยงและประสานงานในความร่วมมือสำหรับต่อยอดผลงานนวัตกรรมไปสู่ระดับประเทศอีกด้วย