"ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาแนวทางการระบายน้ำมันปาล์มดิบที่องค์การคลังสินค้า(อคส.) รับซื้อมาจากโรงสกัดปริมาณรวม 100,000 ตัน เพื่อแทรกแซงราคาผลปาล์มในตลาด โดยมี 5 แนวทางในการระบายสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบดังกล่าว" นายบุญทรง เตริยภิรมย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมฯ
รมว.พาริชย์ กล่าวว่า ทั้ง 5 แนวทาง ประกอบด้วย 1.ทำน้ำมันปาล์มบรรจุขวดปริมาณ 10,000 ตัน ภายใต้แบรนด์ของโรงกลั่นและนำมาจำหน่ายภายในโครงการธงฟ้าและร้านถูกใจในราคาที่ต่ำกว่าขวดละ 42 บาท 2.นำไปใช้ผลิตไบโอดีเซล บี 100 ปริมาณ 50,000 ตัน 3.นำไปใช้แทนน้ำมันเตาในโรงผลิตไฟฟ้า 10,000 ตัน 4.นำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น เครื่องจักรทางการเกษตร เรือประมง 10,000 ตัน และ 5.ผลักดันส่งออกจำนวน 10,000 ตัน แต่ต้องรอประเมินสถานการณ์ราคาตลาดอีกครั้งหนึ่ง เพราะขณะนี้ค่าเงินบาทแข็งค่า
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังมีมติให้กำหนดเงื่อนไขของการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบรอบ 2 จำนวน 50,000 ตันจากโรงสกัด ซึ่งคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตกร(คชก.) กำหนดให้รับซื้อในอัตรากิโลกรัม(กก.) ละ 25 บาท วงเงิน 1,380 ล้านบาท เพื่อให้โรงสกัดไปรับซื้อผลปาล์มดิบจากเกษตรในราคา กก.ละ 4 บาท ในอัตราน้ำมัน 17% และ กก.ละ 4.35 บาท ในอัตราน้ำมัน 18.5% โดยต้องซื้อจากเกษตรกรรายย่อยที่มีผลผลิตปาล์มสดเป็นกรรรมสิทธิ์ของตนเองไม่เกิน 50 ไร่/คน หรือปริมาณ 150 ตัน/คน และจะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เท่านั้น