คลังเผยกองทุนญี่ปุ่นให้เงินสนับสนุน-ช่วยเหลือด้านวิชาการ 2 โครงการของไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 24, 2013 10:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กองทุน Japan Fund for Poverty Reduction (JFPR) ของรัฐบาลญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ (Technical Assistance: TA)แก่ไทยจำนวน 2 โครงการ โดยให้เงินสนับสนุนวงเงินรวม 2.45 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบด้วย

1. โครงการ Strengthening Integrated Water and Flood Management Implementation (TA No. 8267-THA) วงเงิน 1.50 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)เป็นหน่วยงานบริหารโครงการ (Executing Agency) สำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) และกรมชลประทานเป็นหน่วยงานดำเนินโครงการ (Implementing Agency) โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การสนับสนุนรัฐบาลในการดำเนินการตามแผนแม่บท (Master Plan)

รวมถึงการเสนอแนะแนวทางด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างบูรณาการ โดยการพัฒนาคู่มือการวางแผนและการดำเนินงานด้านการติดตามและประเมินผลโครงการบริหารจัดการน้ำของประเทศ รวมถึงการศึกษาแนวทางการบริหารจัดการและการมีส่วนร่วมในแถบลุ่มน้ำยม

2.โครงการAccounting and Financial Management System Reform of Thailand’s Railway Sector (TA No. 8194-THA) วงเงิน 0.95 ล้านเหรียญสหรัฐ กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานบริหารโครงการและ รฟท. เป็นหน่วยงานดำเนินโครงการโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการบริหารจัดการด้านการเงินและบัญชี รองรับการปรับโครงสร้างองค์กร รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านการเงินและบัญชีของ รฟท. เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบการขนส่งทางรางอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ความช่วยเหลือทางวิชาการทั้ง 2 โครงการจะสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและสอดคล้องตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2555-2559 ด้านยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยการพัฒนาระบบการบริหารจัดการน้ำให้ครอบคลุมทุกลุ่มน้ำในประเทศตั้งแต่พื้นที่ต้นน้ำกลางน้ำปลายน้ำเพื่อรองรับปัญหาอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตและยุทธศาสตร์การสร้างการเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบการขนส่งของประเทศเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาค

อนึ่ง นับตั้งแต่ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกปี 2511 จนถึงปัจจุบัน ADB ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการทั้งภาครัฐและเอกชนมากกว่า 165 โครงการรวมเป็นเงินมากกว่า 65ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนในโครงการสาขาต่างๆ อาทิ พลังงาน การขนส่งและการสื่อสาร การเงินการคลัง สาธารณสุข ศึกษา การเกษตร และทรัพยากรธรรมชาติ และการค้าและอุตสาหกรรม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ