2. ปรับถนนทั้งหมดที่เชื่อมกับนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งในบริเวณใกล้เคียง เช่น นิคมอุตสาหกรรมเหมราช เป็นต้น เพื่อให้มีรถเข้าสู่แหลมฉบังได้มากขึ้นและสะดวกขึ้น และ 3. ปรับปรุงตัวแหลมฉบังให้มีประตูทางเข้ามากขึ้น จาก GATE 1 เป็น 16 ช่อง และ GATE 2 จาก 8 เป็น 16 ช่อง รวมถึงปรับปรุงถนนภายในแหลมฉบังให้มีสะพานข้ามทางรถไฟและถนนภายในให้ดีขึ้นภายในปีนี้
พร้อมกันนั้น จะต้องมีการปรับปรุงระบบรถไฟเพื่อรองรับการขนถ่ายสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านตู้/ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ภายใน 2 ปี นอกจากนี้จะมีการเชื่อมเส้นทางสู่สถานีบรรจุและแยกสินค้าง(ไอซีดี ลาดกระบัง)และเพิ่มตู้คอนเทนเนอร์จากปัจจุบันมี 6 ล้านทีอียู
รมว.คมนาคม กล่าวถึงการดำเนินเฟส 3 ท่าเรือแหลมฉบังว่า ยังต้องมีการศึกษาให้ดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อมต่างๆ เนื่องจากเฟส 2 ยังมีความล่าช้าจากปัญหาจากสิ่งแวดล้อมที่เกิดผลกระทบกับมวลชน และรถขนส่งสินค้าขึ้นเรือที่จะต้องมีการสร้างเพิ่มเพื่อรองรับให้ได้ถึง 2 ล้านคัน/ปี จากปัจจุบันรับได้ 1.9 ล้านคัน/ปี