สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 13.30 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,656.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่ร่วงลง 1% เมื่อวันพฤหัสบดี ส่งผลให้ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวลดลง 1.8% และลดลงแล้ว 1.2% ตั้งแต่ต้นปีนี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 51.6 เซนต์ หรือ 1.63% ปิดที่ 31.206 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 2.45 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 3.6520 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,694.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 11.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 741.00 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14.30 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า แรงเทขายเมื่อวันศุกร์เป็นผลมาจากนักลงทุนรายย่อยได้ส่งค่ำสั่งซื้อเข้ามาในตลาดเป็นจำนวนมาก ในขณะที่หุ้นสหรัฐที่เดินหน้าอย่างต่อเนื่องได้ดึงดูดแรงซื้อออกจากตลาดทองคำ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยดัชนี S&P 500 ปิดที่เหนือระดับ 1,500 ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2550
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.ร่วงลง 7.3% สู่ระดับ 369,000 หลัง จากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีในเดือนพ.ย. อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่อ่อนแอไม่ได้ช่วยหนุนตลาดทองคำมากนัก เพราะแม้ว่าตัวเลขดังกล่าวออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ แต่ยอดขายโดยเฉลี่ยในไตรมาส 4 ก็ยังดีกว่าไตรมาส 3 ซึ่งเป็นสัญญาณว่ากิจกรรมในตลาดที่อยู่อาศัยกระเตื้องขึ้นอยู่บ้างไม่มากก็น้อย โดยยอดขายบ้านใหม่ตลอดทั้งปี 2555 ยังสูงกว่าปี 2554 อยู่ประมาณ 20% และถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2552
ทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย โดยนักลงทุนแห่ซื้อทองในช่วงที่เกิดวิกฤตหนี้สาธารณะและวิกฤตการเงิน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐหลายรายการที่ปรับตัวดีขึ้นในระยะนี้ ประกอบกับสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น ที่แข็งแกร่งขึ้น ได้เบี่ยงเบนความสนใจของนักลงทุนไปจากทองคำ
นอกจากนี้เมื่อวันศุกร์ ตลาดทองคำยังถูกกดดันจากตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นขานรับข่าวที่ว่าธนาคารในยุโรปที่กู้เงินผ่านโครงการจัดสรรเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะยาวของอีซีบีจะสามารถชำระเงินกู้งวดแรกคืนได้เร็วและเป็นจำนวนมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมถึงการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีที่ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนม.ค.