นายวีรพงษ์ เปิดเผยว่า ข้อตกลงการซื้อกิจการโรงเยื่อและโรงกระดาษของประเทศฝรั่งเศสในครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้ เนื่องจากได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากรัฐบาลฝรั่งเศส และสถานทูตของทั้งสองประเทศ เดิมโรงงานแห่งนี้ เป็นของบริษัท M-real บริษัทเอกชนจากฟินแลนด์ ภายใต้ชื่อ โรงเยื่อและโรงกระดาษอลิเซ่ (Alizay) หลังประสบปัญหาจนต้องปิดโรงงาน จึงได้รับการเข้าซื้อกิจการจากรัฐบาลฝรั่งเศส เพื่อนำมาขายต่อให้นักลงทุน เพื่อให้เปิดดำเนินงานได้อีกครั้ง โดยทางรัฐบาลฝรั่งเศสได้ตกลงเลือกบริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนของไทยที่มีกระดาษไปจำหน่ายในประเทศของเขามาเป็นผู้ดำเนินการต่อ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศฝรั่งเศส และเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4 เดือนในการเปิดดำเนินการผลิตอีกครั้ง โดยจะนำเข้าเยื่อซึ่งผลิตจากต้นกระดาษบนคันนาของเกษตรกรไทยมาใช้ เพื่อผลิตกระดาษให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานกระดาษแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอที่ผลิตในประเทศไทย และใช้ฐานการผลิตใหม่แห่งนี้ รองรับการจำหน่ายกระดาษในโซนยุโรป ตะวันออกกลาง และอัฟริกาตะวันตก ซึ่งจะทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ มีต้นทุนการขนส่งลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งจากประเทศไทย
นอกจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ก็จะเดินเครื่องผลิตกระดาษรีไซเคิลเป็นครั้งแรก ภายใต้แบรนด์ “Evolve" ซึ่งเป็นแบรนด์เดิมที่โรงงานแห่งนี้ผลิต เพื่อเป็นการนำแบรนด์ “Evolve" กลับสู่ตลาดในยุโรปและออสเตรเลียอีกครั้ง เพราะ Evolve เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในกลุ่มประเทศเหล่านี้ โดยจะนำกระดาษสำนักงานที่ใช้แล้วมารีไซเคิลผลิต เพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ด้วยกำลังการผลิตกระดาษจากโรงงานในฝรั่งเศส 300,000 ตันต่อปี และกำลังการผลิตในประเทศไทยอีก 820,000 ตันต่อปี ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ มีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นถึง 1.12 ล้านตันต่อปี และมีความได้เปรียบในการส่งออกและสร้างแบรนด์ในตลาดโลกได้อย่างแข็งแกร่งขึ้น รวมทั้งมีข้อได้เปรียบจากต้นทุนค่าพลังงานไฟฟ้าที่ลดลงกว่า 20% เมื่อเทียบค่าไฟฟ้าในประเทศไทย เนื่องจากฝรั่งเศสผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ขณะที่ มร.ตีแยรี วีโต เอกอัครราชฑูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย กล่าวว่า ดั๊บเบิ้ล เอ นับเป็นแบรนด์สินค้าไทยที่ประสบความสำเร็จ เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง และเป็นบริษัทไทยรายแรกๆที่เข้าไปลงทุนในฝรั่งเศส ซึ่งขณะนี้เราต้องการให้มีโครงการดีๆ เข้ามาลงทุน จะได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ดีระหว่างนักลงทุนชาวไทยกับนักลงทุนฝรั่งเศส การตัดสินใจครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญของนักลงทุนไทยทั้งหมด และขอต้อนรับนักลงทุนชาวไทยทุกคน
ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีโรงกระดาษในไทย 3 แห่ง กำลังการผลิตรวม 820,000 ตันต่อปี ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค จังหวัดปราจีนบุรี ผลิตกระดาษคุณภาพสูงส่งออกจำหน่ายไปกว่า 138 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้ง เอเชีย ยุโรป อเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลาง สามารถสร้างรายได้จากการส่งออกกระดาษให้กับประเทศไม่น้อยกว่าปีละ 10,000 ล้านบาท และเป็นผู้ผลิตรายเดียวในประเทศไทยและในตลาดโลกที่ผลิตกระดาษจากคันนา และใช้ตราสัญลักษณ์ Paper from KHAN-NA ซึ่งทำให้ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นกระดาษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและช่วยลดโลกร้อน โดยขั้นตอนการผลิตกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ 1 รีม ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 12.5 กิโลกรัม