"คิดว่าไม่ควรออกมาตราการ capital control เราต้องกับมาดูว่านักลงทุนที่มาลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในระยะสั้น ก็ต้องเข้าดูแลนโยบายระยะสั้น และต้องมีความชัดเจนในตัวมาตราการ"นายนิวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ ยอมรับว่าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมามีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้าตราสารหนี้ 1 แสนล้านบาท ซึ่ง 90% เป็นพันธบัตรระยะสั้น ส่งผลให้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น แต่ ธปท.ก็มีนโยบายและมาตราการที่ดีอยู่แล้วในการดูแลค่าเงินบาทที่จะทำให้เกิดความสมดุล
ขณะที่นางสาวอริยา ติรณะประกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ กล่าวว่า คาดว่าในปีนี้จะมีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดตราสารหนี้อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งมองว่าประเทศไทยควรมาตรการดูแลเงินทุนไหลเข้าระยะสั้นโดยใช้วิธีเดียวกับประเทศอินโดนีเซียที่กำหนดระยะเวลาการถือครองพันธบัตร เช่น ถ้าถือครองพันธบัตรครบ 3 เดือนจึงมีสิทธิขายพันธบัตรนั้นได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เงินบาทแข็งค่าผู้ประกอบการที่มีรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศควรจะพิจารณาออกหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์เพื่อเสนอขายในประเทศ เนื่องจากทาง ธปท.ได้มีการอนุมัติไว้แล้วเมื่อปลายปี 55 โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ เช่น บริษัทในกลุ่ม ปตท.