AFET ลั่นแผน Turnaround ครั้งใหญ่ จ่อเทรด"ถั่วเหลือง-มันเส้น-ข้าวโพด-แป้งมัน"

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 29, 2013 13:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บิ๊ก AFET ประกาศ Turnaround ในปี 57 หรือ 58 เป็นอย่างช้า หลังขาดทุนมาตลอด 9 ปี พร้อมตั้งเป้าเพิ่มปริมาณซื้อขาย จำนวนบัญชี โบรกเกอร์ มาร์เก็ตติ้ง ดึงโบรกฯต่างชาติเข้าร่วมวง เชื่อมระบบซื้อขายกับโบรกฯ เข้าเทรดในจอเดียวกันกับหุ้น-TFEX จ่อนำถั่วเหลือง-มันเส้น-ข้าวโพด-แป้งมัน เข้าซื้อขายในปีนี้

นายชาตรี สหเวชชภัณฑ์ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) ประกาศแผน Turnaround ในปี 57 หรือปี 58 จากที่ขาดทุนมา 9 ปี ตั้งแต่ดำเนินกิจการมาครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2547

ในแผน Turnaround ได้มีการปรับโครงสร้างหลังจากที่เข้ามารับตำแหน่งโดยยุบฝ่ายงานวิจัยเข้ามาอยู่ในส่วนของฝ่ายพัฒนาธุรกิจ พร้อมเตรียมเพิ่มจำนวนมาร์เก็ตติ้ง 10 เท่าเป็นอย่างน้อย หรือเป็น 500 คน จากปัจจุบันมีอยู่เพียง 57 คน เพิ่มสาขาอีก 10 เท่า จากปัจจุบันมี 8 สาขา กรุงเทพ 6 สาขา เชียงใหม่ 1 สาขา หาดใหญ่ 1 สาขา และเพิ่มจำนวนโบรกเกอร์จากที่มีอยู่แค่ 6 ราย ทุนจดทะเบียนรวมกัน 330 ล้านบาท

ปัจจุบันมีโบรกเกอร์ของ SET เข้ามาเป็นสมาชิกแล้ว 3 ราย คือ บล.เอเซีย พลัส (ASP) บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) และ บล.เคที ซีมิโก้ และที่กำลังจะเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ภายในไตรมาส 1/56 คือ บล. โกลเบล็ก รวมทั้งได้รับการยืนยันจากบล.อีก 3 รายว่าจะเข้ามาเป็นสมาชิกในปีนี้

นอกจากนั้น ยังมีโบรกเกอร์ของประเทศญี่ปุ่นก็จะเข้ามาดำเนินธุรกิจนายหน้าซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าในประเทศไทยด้วย หลังจากมีโบรกเกอร์จากจีนเข้ามาแล้ว 1 ราย

"เร็วๆ นี้จะมีโบรกเกอร์ญี่ปุ่นเข้ามาจดทะเบียนตั้งบริษัทในประเทศไทย และมาเป็นโบรกเกอร์ของเรา เป้าหมายระยะใกล้คือเพิ่มปริมาณการซื้อขายเป็นเงินบาทแล้วเดินหน้าสู่การซื้อขายที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ"นายชาตรี กล่าว

นายชาตรี กล่าวว่า ตั้งแต่เม.ย.56 นี้ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของ AFET จะเป็น AFET ยุคใหม่ โดยจะเพิ่มโบรกเกอร์ เพิ่มมาร์เก็ตติ้ง เปลี่ยนระบบการซื้อขายให้เชื่อมโยงกับหน้าจอของบริษัทหลักทรัพย์ ให้หน้าจอเทรด AFET อยู่ในจอเดียวกับเทรดหุ้น TFEX และทองคำ คาดว่าเม.ย.-พ.ค.นี้ทุกอย่างจะเรียบร้อย

นอกจากนี้ AFET ยังมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนบัญชีจากปัจจุบัน 4,800 บัญชี ซึ่งตลอด 9 ปีที่ผ่านมาจำนวนบัญชีค่อนข้างทรงตัว แม้ว่าจะมีเพิ่มขึ้นแต่ขณะเดียวกันก็ลดลงไปด้วย ทำให้จำนวนบัญชีไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการ พร้อมกันนั้น ยังมีเป้าหมายเพิ่มปริมาณซื้อขายเป็นอย่างน้อย 5,000 สัญญา/วัน จากขณะนี้มีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 400-500 สัญญา/วัน

*เดินหน้าทำประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจด้านการลงทุน AFET

กรรมการแลผู้จัดการ AFET กล่าวว่า ในปี 56 นี้ AFET มีแนวทางพัฒนาและส่งเสริมการซื้อขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย ด้วยการเผยแพร่ข้อมูลสินค้าในรูปแบบของบทวิเคราะห์ต่อสาธารณชนผ่านสื่อต่างๆ การพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับการซื้อขายล่วงหน้าแบบออนไลน์ การจัดหลักสูตรอบรมความรู้เกี่ยวกับการซื้อขายล่วงหน้าทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคให้แก่เจ้าหน้าที่การตลาด นักลงทุน ผู้ประกอบการ และเกษตรกร อย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อขาย สร้างความคึกคักและดึงดูดให้มาซื้อขายที่ AFET

"ปีนี้เหมือนเป็นปีที่เราจะแนะนำตัวเอง เชื่อมั่นว่า AFET จะเป็นที่สนใจของผู้เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน"นายชาตรี กล่าว

นายชาตรี กล่าวย้ำว่า สำหรับการลงทุนใน AFET เป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับการลงทุน มีข้อดีคือ ไม่ได้แข่งขันกับตลาดหลักทรัพย์ หรือ TFEX แต่เกื้อหนุนกัน เนื่องจากไม่ได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน คือวันที่เศรษฐกิจดีราคาข้าวโพดอาจจะดีหรือดีไม่เท่าวันที่เศรษฐกิจโลกไม่ดี ตลาดหุ้น หรือ TFEX ก็จะไม่ดีตาม แต่ราคาสินค้าเกษตรอาจจะวิ่งขึ้น ซึ่งทฤษฎีของการลงทุน ควรลงทุนหลากหลายในสินค้าที่ไม่ได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน เพราะฉะนั้น AFET เป็นตลาดเดียวที่สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงได้สินค้าตัวใดที่มีความผันผวนสูงก็มีโอกาสทำกำไรได้สูง ปีที่ผ่านมาสินค้ายางมีความผันผวนสูงมาก

*จ่อนำถั่วเหลือง-มันเส้น-ข้าวโพด-แป้งมัน เข้าซื้อขายในปีนี้

นายชาตรี กล่าวถึงแผนการนำสินค้าใหม่เข้ามาซื้อขายในปีนี้ ได้แก่ ถั่วเหลือง ราวต้นไตรมาส 2/56, มันเส้นประมาณปลายไตรมาส 2/56, ข้าวโพด ไตรมาส 3/56, แป้งมัน ไตรมาส 4/56

สำหรับสินค้าถั่วเหลืองจะมีการลงนามร่วมกับ Chicago Mercantile Exchange Inc.(CME)เพื่อใช้อ้างอิงกับราคาถั่วเหลืองที่ซื้อขายใน CME แบบ Cash Settlement เทรดเป็นเงินบาทและกำหนดให้สัญญามีขนาดเล็ก ขนาดเพียง 1 ใน 10 ของ CME มูลค่าสัญญา 2 แสนบาท วางมาร์จิ้น 8,000-10,000 บาท แต่รายละเอียดอย่างอื่นเหมือน CME ทุกอย่าง

ขณะที่มันเส้น ขณะนี้มีบริษัทของจีนสมัครเข้ามา เป็นโบรกเกอร์ในตลาด Forward มีการซื้อขายมันเส้นวันละประมาณ 2 ล้านสัญญา สนใจอยากจะมาเป็นสมาชิกของเรา โดยการเข้ามาตั้งบริษัทในไทย และสมัครเป็นสมาชิกของ AFET ต้องการนำคนซื้อรายใหญ่จากจีนกับคนขายรายใหญ่ของโลกคือไทยให้มาเจอกัน เพราะ 80-90% ของมันเส้นเราส่งออกส่งไปจีนหมด เพื่อนำไปทำแอลกอฮอล์ เอทานอล มีความต้องการใช้มาก เพราะจีนมีนโยบายใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น ตามแผน 5 ปี ดังนั้น มันเส้นถือว่าเป็นสินค้าเกษตรที่มีอนาคตมาก

"ทุกสินค้าที่เราเลือกมาซื้อขายมีหลักการ และพิจารณาแล้วว่าเป็นสินค้าที่มีอนาคต อย่างสับปะรดที่เรานำเข้ามาซื้อขายเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการในวงการสับปะรดเป็นคนมาคุยกับเราเอง ขอให้มีการเทรด แต่ช่วงนี้ที่เงียบไป เพราะบรรดาผู้ประกอบการรายใหญ่ 4 รายกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องการจัดตั้งบริษัทกลางเพื่อรับซื้อและขายผ่านช่องทาง AFET โดยตรง ทันทีที่ชัดเจนการซื้อขายสับปะรดจะคึกคักกว่านี้ ส่วนถั่วเหลือง ข้าวโพด มันเส้นถือเป็นความหวังใหม่ของ AFET"กรรมการและผู้จัดการ AFET กล่าว

ส่วนสินค้าข้าว ต้องรอดูนโยบายภาครัฐว่าจะเดินไปในลักษณะไหน แต่เชื่อว่าเป้าหมายที่ดีมุ่งเน้นประโยชน์ไปสู่เกษตรกร แต่วิธีการเป็นงานใหญ่ มีคนเข้ามาเกี่ยวข้องมาก

ด้านยางพารา ถือเป็นสินค้าเกษตรอุตสาหกรรม การเติบโตของภาวะเศรษฐกิจโลกมีผลต่อยางโดยตรง มากกว่า 80% ของผลผลิตยางนำไปทำล้อรถยนต์ ซึ่งมีความใกล้ชิดกับภาวะเศรษฐกิจโลก ภาวะในช่วงนี้ทิศทางราคายางยังไปได้ดี อาจจะทรงตัวหรือกระเตื้องขึ้น แต่คงไม่ไปถึง 180-190 บาท/กก. แต่ 120 บาท/กก.ก็ยังอาจจะมีความเป็นไปได้ ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจที่มีสัญญาการฟื้นตัวดีขึ้น ใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูกาลยางผลัดใบ จีนเร่งสต็อกยางก่อนถึงเทศกาลตรุษจีน

"เชื่อว่าเศรษฐกิจไม่น่าจะแย่เหมือนปีที่แล้ว และต้องรอดูอีก 2 เดือนซึ่งจะมีรายงานตัวเลขการใช้จ่ายของภาครัฐ"นายชาตรี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ