รายงานบทวิเคราะห์ฉบับล่าสุดเปิดเผยว่า ข้อตกลงที่ลงนามร่วมกันระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันแบบเฉียดเส้นตาย เพื่อเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลังนั้น แทบไม่ได้ช่วยให้แนวโน้มงบประมาณของรัฐบาลกลางปรับตัวดีขึ้น
รายงานให้ข้อสังเกตว่า ข้อตกลงดังกล่าวช่วยสกัดผลกระทบที่จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจได้บางส่วนจากการขึ้นภาษีประกอบกับการลดรายจ่ายของรัฐบาล แต่ไม่ได้สร้างความคืบหน้าที่มีนัยสำคัญต่อเป้าหมายหลักเกี่ยวกับนโยบายการคลังที่สามารถบริหารจัดการได้ ซึ่งจะสร้างเสถียรภาพให้แก่หนี้สินในฐานะที่มีส่วนในเศรษฐกิจ และทำให้หนี้อยู่ในทิศทางขาลง
มูลนิธิปีเตอร์ จี. ปีเตอร์สันระบุว่า ก่อนบรรลุข้อตกลงเลี่ยงหน้าผาการคลัง คาดว่าหนี้สินของรัฐบาลกลางจะเพิ่มขึ้นเป็น 200% ของจีดีพีใน 26 ปีภายใต้นโยบายปัจจุบัน และภายหลังทั้งสองพรรคบรรลุข้อตกลง คาดว่าหนี้ของรัฐบาลกลางจะเพิ่มขึ้นเป็น 200% ของจีดีพีใน 27 ปี
สาเหตุที่ภาพรวมของหนี้สินสหรัฐไม่ได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างเป็นรูปเป็นร่าง เนื่องจากคาดว่ารายจ่ายในโครงการด้านสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงสวัสดิการสังคม จะยยังคงขยายตัวในอัตราที่เร็วกว่ารายรับ ขณะที่นักวิเคราะห์หลายรายแนะนำให้คงหนี้สินของรัฐบาลไว้ที่หรือต่ำกว่า 60% ของจีดีพี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่หลายประเทศใช้อยู่ สำนักข่าวซินหัวรายงาน