ทั้งนี้ได้แต่งตั้ง ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารดอยช์แบงก์ เอจี และธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น เป็นผู้จัดจำหน่าย โดยพันธบัตรดังกล่าวจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 4 มี.ค.56 และ Bookbuilding วันที่ 5 มี.ค.56 มีกำหนดจองซื้อวันที่ 8, 11 มี.ค.56 และออกพันธบัตร 12 มี.ค.56
นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการ สบน. กล่าวว่า หลังการออก ILB รุ่นอายุ 15 ปี วงเงิน 40,000 ล้านบาทดังกล่าวแล้ว จากนั้นอีก 2-3 เดือน จะมีการ Re-Open ให้กับนักลงทุนที่สนใจจองซื้อพันธบัตรดังกล่าว เพื่อให้ยอดพันธบัตรคงค้างเป็น 100,000 ล้านบาท
สำหรับเงินที่ระดมได้จากการออกพันธบัตรดังกล่าว เป็นไปตามแผนการกู้เงินภาครัฐในปีงบประมาณ 56 วงเงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ เพื่อการ Rollover และการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งในแต่ละไตรมาส ได้กำหนดแผนการออกพันบัตรแต่ละประเภทไว้แล้ว
นางสาวจุฬารัตน์ กล่าวอีกว่า การออก ILB รุ่นอายุ 15 ปี เป็นการพัฒนาต่อยอดจากครั้งแรกที่มีการออก ILB รุ่นอายุ 10 ปี เมื่อปี 54 ซึ่งได้รับความสนใจ และในอนาคต มีแผนที่จะออกในรุ่นที่อายุยาวขึ้น 30 ปี 50 ปี ประกอบกับการออก ILB ก่อนหน้านี้เพียง 1 รุ่น ยังไม่ถือว่ามีเส้นอัตราผลตอบแทนอ้างอิง (Yield Curve) ของ ILB ได้ ดังนั้น เมื่อมีการออก ILB รุ่นอายุ 15 ปีในครั้งนี้จะทำให้ไทยเริ่มมี Yield Curve ของ ILB เป็นครั้งแรก
นอกจากนี้พบว่านักลงทุนต่างชาติมีความสนใจลงทุนในตราสารหนี้ และการออก ILB จะเป็นการขยายฐานนักลงทุน โดยพบว่ามีนักลงทุนจากเกาหลี มาเลเซีย เนเธอร์แลนด์ และเยอรมัน สนใจหารือกับ One on One เป็นอย่างมาก แต่ยังไม่คุ้นเคยกับตราสารหนี้มาก
อนึ่ง สบน.ได้ออก ILB รุ่นแรกเมื่อปี 54 วงเงิน 40,000 ล้านบาท มีอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วในอัตราคงที่ 1.20% และส่วนชดเชย เงินเฟ้อบนดอกเบี้ย คำนวณพร้อมดอกเบี้ยจ่ายทุก 6 เดือน เสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ