"มีโครงการที่แจ้งความประสงค์ต้องการแรงงานเพื่อรองรับการลงทุนใหม่ รวมถึงการขยายการลงทุนในโครงการต่างๆรวม 2,131 โครงการ โดยมีความต้องการแรงงานรวม 254,569 คน แบ่งเป็น กลุ่มผู้ใช้แรงงานทั่วไป(ป.6-ม.6) จำนวน 156,877 คน ช่างเทคนิค(ปวช.-ปวส.) จำนวน 48,705 คน และระดับปริญญาตรีขึ้นไป จำนวน 34,220 คน" นางวาสนา มุทุตานนท์ รองเลขาธิการ BOI กล่าว
โดยความต้องการแรงงานดังกล่าวมีจำนวนใกล้เคียงกับปี 54 ซึ่งมีโครงการแจ้งความต้องการแรงงานจำนวน 1,828 โครงการ และมีความต้องการแรงงานรวม 302,115 คน แรงงานที่ต้องการมากอยู่ในกลุ่มผู้ใช้แรงงานทั่วไป(ป.6-ม.6) จำนวน 204,008 คน ช่างเทคนิค จำนวน 45,889 คน และปริญญาตรี จำนวน 36,337 คน
ทั้งนี้ในปี 55 อุตสาหกรรมที่มีความต้องการแรงงานสูงสุดอยู่ในอุตสาหกรรมบริการ และสาธารณูปโภค รองมาเป็นผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าตามลำดับ โดยช่างเทคนิคเป็นกลุ่มที่ความต้องการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 54 อาทิ ช่างกลโรงงาน ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างไฟฟ้าเครื่องกล ช่างเชื่อมโลหะในขณะที่ระดับการศึกษาปริญญาตรี กลุ่มที่มีความต้องการมากคือ วิศวกรในสาขา เครื่องกล อุตสาหการ ไฟฟ้า รองมาเป็นสายบริหารธุรกิจ และวิทยาศาสตร์ เป็นต้น
รองเลขาธิการ BOI กล่าวว่า BOI ตระหนักดีถึงปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานฝีมือ ช่างเทคนิค และวิศวกร ดังนั้น ทิศทางนโยบายส่งเสริมการลงทุนในอนาคตจึงไม่มุ่งเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นอีกต่อไป แต่จะมุ่งเน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมฐานความรู้ที่ใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม และบีโอไอ จะได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำงานเชิงลึก เพื่อพัฒนาบุคลากรให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศต่อไป