"ผมจะฟื้นฟูเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง ขณะเดียวกันก็จะปรับโครงสร้างการคลังของรัฐบาล" เขากล่าวตอบขอซักถามของนายบันริ ไคเอดะ ผู้นำพรรคประชาธิปไตยแห่งญี่ปุ่น (ดีพีเจ) ซึ่งแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณและความคืบหน้าในการฟื้นฟูฐานะการคลังของญี่ปุ่น ที่นับว่าย่ำแย่ที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่สำคัญๆ
ทั้งนี้ กว่า 46% ของงบประมาณเบื้องต้นในปี 2556 ซึ่งมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทางโครงการสาธารณะขนาดใหญ่นั้น เป็นเงินที่ได้มาจากการออกพันธบัตรชุดใหม่ ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนได้แสดงความกังวลว่า หนี้สินมูลค่ามหาศาลของญี่ปุ่นอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้างและในระยะยาว
ต่อข้อซักถามของนายไคเอดะเกี่ยวกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่าญี่ปุ่นพยายามปั่นค่าเงินในตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการบีบให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงรุกนั้น นายอาบะกล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลของเขามีเป้าหมายที่จะ "จัดการกับเงินฝืดและคำนึงถึงการเติบโตของเศรษฐกิจเป็นหลัก"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของนายอาเบะมีขึ้นหลังจากนางอังเกล่า แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของญี่ปุ่น หลังจากเจ้าหน้าที่ด้านการเงินรายอื่นๆของเยอรมนีได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์บีโอเจที่ใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินตามแรงกดดันของรัฐบาล