สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดดีดขึ้น 8.6 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ที่ 1,670.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 60.7 เซนต์ ที่ 31.958 ดอลลาร์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 5.25 เซนต์ ที่ 3.7845 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดเพิ่ม 12.3 ดอลลาร์ ที่ 1,687.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดพุ่ง 10.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 756.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาทองคำที่ตลาดลอนดอนปิดที่ระดับ 1,669.0 ดอลลาร์/ออนซ์ จากวันก่อนที่ระดับ 1,664.75 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองเดินหน้าขึ้นหลังจากระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานอัตราว่างงานในเดือนม.ค.ที่ระดับ 7.9% ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 7.8% ในเดือนธ.ค. ขณะที่ต้วเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 157,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆที่ออกมาในเชิงบวกเมื่อคืนนี้ ก็ได้สกัดช่วงบวกของราคาทอง โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตของสหรัฐเพิ่มขึ้นแตะ 53.1 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนม.ค.จากธอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเพิ่มขึ้นแตะ 73.8 จาก 72.9 ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบกับตัวเลขเบื้องต้นที่ 71.3
ส่วนข้อมูลภาคการผลิตของจีนก็แสดงถึงการปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในเดือนม.ค. โดยเอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี จาก 51.5 ในเดือนธ.ค. ดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
ทางด้านเครดิต สวิสเตือนว่าราคาทองในสกุลดอลลาร์อาจแตะจุดสูงสุดแล้วในปี 2554 สำหรับวงจรการซื้อขายในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้ราคาทองปรับตัวขึ้นไม่มากนัก