สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายซาโตะกล่าวสุนทรพจน์ที่จ.กันมะว่า ในขณะที่ญี่ปุ่นเผชิญกับปัจจัยผันผวน เช่น สังคมผู้สูงวัย และจำนวนประชากรที่ลดลง การกำหนดเป้าเงินเฟ้อที่ 2% จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะท้าทาย
ซาโตะซึ่งเป็นหนึ่งในบอร์ดแบงก์ชาติญี่ปุ่นที่ลงคะแนนเสียงคัดค้านการกำหนดเป้าเงินเฟ้อในการประชุมเมื่อเดือนที่แล้ว โดยดต้ว่า ความน่าเชื่อถือของนโยบายเงินตราจะลดลง หากว่าเป้าราคาถูกกำหนดไว้ก่อนที่จะมีความคืบหน้าในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรัฐบาล
แม้ว่า นายซาโตะจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจดังกล่าว นายซาโตะกล่าวว่า ตนเองอยู่ในจุดยืนที่ต้องตัดสินใจเรื่องนโยบายของธนาคารกลาง และต้องรับผิดชอบกับการดำเนินการ ดังนั้น บอร์ดของธนาคารกลางจึงเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย และเพิ่มความน่าเชื่อถือของเป้าหมาย
การที่จะบรรลุเป้าหมายได้นั้น นายซาโตะย้ำว่า การขึ้นค่าแรงเป็นเรื่องที่จำเป็น ความแข็งแกร่งของปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการขึ้นค่าแรงในระดับประมาณ 4% เพื่อที่จะกำหนดเป้าเงินเฟ้อที่ 2% ให้ได้
การดำเนินการให้ได้ตามเป้าหมายนั้น ไม่สามารถทำได้ด้วยการยกระดับโครงการตามนโยบายที่มีอยู่ รัฐบาลและธนาคารกลางญี่ปุ่นจะต้องรับมือกับประเด็นดังกล่าวอย่างแข็งแกร่งมากกว่านี้ นายซาโตะกล่าว
นายซาโตะกล่าวด้วยว่า อิทธิพลของนโยบายเงินตราที่มีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนทางอ้อมนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังจะเห็นได้จากผลพวงการอ่อนค่าลงของเงินเยนที่มีต่อตลาดเงินและตลาดหุ้น