"นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่า ทุกโครงการต้องตอบสังคมได้และยึดยุทธศาสตร์ประเทศเป็นหลัก ไม่ให้มีโครงการฝากเข้ามา โดยทุกโครงการต้องไม่มีการปรับหรือแก้ไขในส่วนของขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง"นายชัชชาติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แผนงานอยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายละเอียดของโครงการและกำหนดยุทธศาสตร์ให้ชัดเจน เพื่อตอบโจทย์การใช้งบประมาณว่า โครงการใดควรใช้งบปกติ หรือใช้งบประมาณตาม พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท หรือมีโครงการใดที่จะให้ภาคเอกชนมาร่วมลงทุนด้วย ซึ่งจะมีการเชิญเอกชนมาให้ความเห็นว่าแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสอดคล้องกับแนวคิดเอกชนหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาหนึ่งเดือนแผนทั้งหมดจะชัดเจน และจะนำเสนอต่อสภาให้ทันสมัยประชุมนี้
สำหรับแหล่งเงินทุนกู้ 2.2 ล้านล้านบาทนั้น กระทรวงการคลัง เห็นว่า ให้ใช้เงินทุนในประเทศเพราะเงินลงทุนจากต่างประเทศ ความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเมื่อรวมกับดอกเบี้ยจะทำให้มีต้นทุนสูง ดังนั้นเห็นควรใช้เงินทุนจากในประเทศเป็นหลัก เพราะขณะนี้สภาพคล่องจากเงินฝากในประเทศค่อนข้างมากถึง 2.4 ล้านล้านบาท และเงินกู้ที่ใช้ในโครงการ ไม่ได้กู้ในครั้งเดียว เฉลี่ยเงินกู้ ต่อปี อาจจะอยู่ที่ 3 แสนกว่าล้านบาท
นายชัชชาติ เปิดเผยด้วยว่า จากการเดินทางมาเยือนของนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ ได้รับแจ้งว่า ทางประเทศฝรั่งเศสมีความสนใจที่จะร่วมในโครการรถไฟความเร็วสูง โดยไทยจะพิจารณาแต่ละประเทศโดยความยุติธรรม โปร่งใส เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม