รายงานดังกล่าวอ้างคำพูดจากแหล่งข่าวในคณะกรรมการพัฒนาที่อยู่อาศัยและเขตชนบท-ในเมืองของเทศบาลนครปักกิ่งว่า เมืองขนาดใหญ่ เช่น ปักกิ่ง จะเป็นเมืองพื้นฐานที่ต้องใช้มาตรการใหม่ในระยะใกล้นี้อย่างแน่นอน ซึ่งจะรวมไปถึงการควบคุมอุปสงค์และสร้างกฎเกณ์เพื่อสกัดกั้นการซื้อบ้านให้เข้มข้นขึ้น
ทั้งนี้ มาตรการเหล่านี้อาจประกาศใช้ก่อนต้นเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงของการเปิดการประชุมทางการเมืองที่สำคัญของประเทศ
หลังจากที่ได้ลดความร้อนแรงลงเป็นระยะเวลาสั้นๆ ในปี 2553 ตลาดที่อยู่อาศัยจีนได้เริ่มฟื้นตัวในปีที่ผ่านมาหลังจากที่รัฐบาลได้ปรับนโยบายเพื่อเน้นไปที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ในเดือนธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา ราคาบ้านใน 54 เมืองจาก 70 เมืองขนาดใหญ่ได้ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับ 53 เมืองในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นการขยายตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ การทำธุรกรรมเกี่ยวกับบ้านยังมียอดสูงขึ้นหลังจากที่อุปสงค์ปรับตัวขึ้นเนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า ราคาอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก โดยมีหลักฐานจากการต่อแถวอย่างยาวเหยียดในห้องธุรกรรมในปักกิ่ง
การพัฒนาในระยะนี้ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลอาจจะหามาตรการใหม่ๆเพื่อมาฉุดตลาดและลดความไม่พอใจของประชาลง
นายหยาง หงซู รองประธานสถาบันวิจัยและพัฒนาที่อยู่อาศัยจีนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกในปักกิ่งกล่าวว่า “หากรัฐบาลไม่เร่งใช้มาตรการควบคุม ราคาบ้านในเมืองขนาดใหญ่บางแห่งอาจจะเพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าที่จะควบคุมได้" สำนักข่าวซินหัวรายงาน