สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3526 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3586 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5666 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5683 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9095 ฟรังค์ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9081 ฟรังค์ และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 93.39 เยน จากระดับ 93.37 เยน
สกุลเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป โดยโพลล์สำรวจความคิดเห็นในอิตาลีบ่งชี้ว่า การที่นายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรี ชูนโยบายเลิกใช้มาตรการรัดเข็มขัด ทำให้เขาได้รับคะแนนนิยมมากขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปช่วงปลายเดือนนี้ ทำให้ตลาดเกิดความกังวลว่า หากนายแบร์ลุสโคนีกลับสู่อำนาจอีกครั้งก็อาจส่งผลต่อความต่อเนื่องในการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเงินของประเทศซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันได้เริ่มต้นเอาไว้
ขณะที่นายกรัฐมนตรี มาริอาโน ราฮอย ของสเปนกำลังถูกกดดันจากฝ่ายค้านให้ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เขามีส่วนพัวพันในกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริต ซึ่งข่าวดังกล่าวยิ่งตอกย้ำความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของสเปน
นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้รับปัจจัยลบหลังจากนายฟรังซัวส์ ฮอลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเตือนว่า การแข็งค่าของสกุลเงินยูโรอาจจะทำให้เศรษฐกิจยูโรโซนถดถอยลง ขณะที่รัฐมนตรีคลังของกรีซก็ได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรเช่นกัน
นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย หลังจากที่การประชุมครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น อีซีบีมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% และไม่ได้ประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เพราะต้องการจะประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและรอดูโอกาสที่เหมาะสมก่อนที่จะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรครั้งใหม่