ดัชนี Stoxx 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 284.52 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 3,642.90 จุด ลดลง 51.80 จุด, -1.40% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,581.18 จุด ลดลง 83.48 จุด, -1.09% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,295.34 จุด เพิ่มขึ้น 12.58 จุด, +0.20%
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) ขานรับผลประกอบการภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป พร้อมกับจับตาดูการประชุมผู้นำยุโรปซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 7.22 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 13,986.52 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.83 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 1,512.12 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 3.10 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 3,168.48 จุด
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาทองคำปรับตัวลงเมื่อวันก่อน นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 5.3 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,678.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1668.80 - 1680.50 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.2 เซนต์ ปิดที่ 31.877 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 374.05 ดอลลาร์/ปอนด์ ร่วงลง 2.95 เซนต์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1736.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 29.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 764.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 0.65 ดอลลาร์
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์พลังงานภายในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป โดยเฉพาะอิตาลี
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ขยับลง 2 เซนต์ ปิดที่ 96.62 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 95.04-96.99 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน ดีดขึ้น 21 เซนต์ ปิดที่ 116.73 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 115.72-117.05 ดอลลาร์
-- สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป โดยเฉพาะอิตาลีและสเปน ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3526 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3586 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5666 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5683 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9095 ฟรังค์ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9081 ฟรังค์ และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 93.39 เยน จากระดับ 93.37 เยน
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากบริษัทยูเรเซียน เนเชอรัล รีซอสเซส (ENRC)รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,295.34 จุด เพิ่มขึ้น 12.58 จุด หรือ 0.20%