“ปัจจุบันมีรถบรรทุกสินค้าเข้ามาใช้บริการที่ท่าเรือแหลมฉบังวันละประมาณ 6 หมื่นคัน ซึ่งหนาแน่นมาก ประกอบกับบทบาทของท่าเรือแหลมฉบังยังเป็นท่าเรือหลักของไทย และต้องขยายขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าถึง 11 ล้านทีอียู จากปัจจุบันอยู่ที่ 7 ล้านทีอียู ทำให้ต้องเร่งขยายโครงข่ายขนส่งภายในและภายนอกท่าเรือ"นายประเสริฐ กล่าว
ด้านนายอดุลย์ เชาว์วาทิน ผู้อำนวยการสำนักทางหลวงที่ 12 กรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ทล.มีแผนพัฒนาโครงข่ายทางถนนเพื่อสนับสนุนระบบโลจิสติกส์ภาคตะวันออกและสนับสนุนท่าเรือแหลมฉบัง วงเงินรวม 29,165 ล้านบาท เช่น การขยายช่องจราจรบริเวณถนนทางเข้าท่าเรือแหลมฉบังจาก 4 ช่องจราจรเป็น 14 ช่องจราจร วงเงิน 2,500 ล้านบาท การเร่งพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ด้วยการเร่งสร้างทางหลวง ช่วงพัทยา-มาบตาพุด วงเงิน 8,900 ล้านบาท และก่อสร้างทางต่างระดับบางพระ และทางต่างระดับหนองขาม โดยขณะนี้มีความคืบหน้ากว่า 40%
นายดรุณ แสงฉาย รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช) กล่าวว่า ทช.มีแผนพัฒนาถนนเชื่อมโยงเพื่อสนับสนุนท่าเรือแหลมฉบังรวม 7 โครงการ วงเงินรวม 3,639 ล้านบาท เช่น โครงการเร่งก่อสร้างถนนเชื่อมต่อทางหลวงแผ่นดินหมายเลข7 กับ ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทาง 9.90 กิโลเมตร วงเงิน 1,400 ล้านบาท