นายกฯเผยกำลังซื้อในปท.ดีขึ้นจากผลนโยบายกระตุ้นศก. หนุนตปท.ลงทุนเพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday February 9, 2013 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน" โดยหวังเห็นในปีนี้เป็นปีแห่งการสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งจากที่ผ่านมาพบว่าตัวเลขเศรษฐกิจในภาพรวมเติบโตดีขึ้น กำลังซื้อและการบริโภคในประเทศดีขึ้น มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่งผลให้วงจรเศรษฐกิจดีขึ้นทุกระดับ ซึ่งกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากผลของการที่รัฐบาลใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่างๆ แต่ที่เห็นได้ชัดคือ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ และนโยบายการปรับขึ้นเงินเดือน 15,000 บาทในผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี

ทั้งนี้ จากการที่ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น ได้ทำให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ต่างชาติ โดยจะเห็นได้จากในช่วงนี้มีผู้นำของหลายประเทศเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เช่น มิชลินจากฝรั่งเศส และฮอนด้าจากญี่ปุ่น ซึ่งในส่วนของฮอนด้านั้นล่าสุดได้ตัดสินใจขยายการลงทุนในประเทศไทยที่ จ.ปราจีนบุรี คิดเป็นมูลค่า 17,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าจะผลิตรถยนต์ในประเทศปีละ 120,000 คัน และใช้ไทยเป็นฐานสำหรับการส่งออก

นายกรัฐมนตรี มองว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจต่างประเทศมีความผันผวน นับเป็นโอกาสดีของบริษัทคนไทยที่มีศักยภาพในการที่จะเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ โดยหวังให้กลไกต่างๆ ทั้งสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ บีโอไอ เป็นตัวขับเคลื่อนกลไกการทำงานของเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

"มีหลายประเทศประกาศลงทุนเพิ่ม ด้วยบรรยากาศที่ดีขึ้น นโยบายต่างๆที่เราเสริม การก้าวสู่ประชาคมอาเซียนและไทยอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ดี แต่จากความผันผวนต่างๆ ประเทศไทยต้องตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท และต้องเติบโตอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ"นายกรัฐมนตรี กล่าว

อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี อยากเห็นการลงทุนที่แท้จริงซึ่งหมายถึงการลงทุนที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของศักยภาพที่แท้จริง เพราะการลงทุนมากเกินตัวจะเป็นสิ่งไม่ดี แต่การลงทุนจะต้องดำเนินไปพร้อมๆ กับประสิทธิภาพซึ่งจะทำให้ประเทศเติบโตได้อย่างมั่นคง โดยอยากเห็นทุกกลไกการทำงานประสานกันอย่างสอดคล้อง

และจากภาวะเงินบาทแข็งค่าอันเนื่องจากเงินทุนต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่องนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงทุนที่ไหลเข้ามาควรเข้ามาในส่วนของเรียลเซคเตอร์ ไม่ใช่เป็นการเข้ามาเก็งกำไร เพราะการที่มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความพร้อมอย่างแท้จริงนั้น จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริงและสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจไทยให้มีความเข้มแข็ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ