"นี่ถือเป็นงบประมาณที่สมดุลและมุ่งสู่ภาวะการเติบโตในยุโรปในช่วงทศวรรษที่เหลืออยู่" นายเฮอร์มาน แวน รอมปุย ประธานสภายุโรปกล่าว
ในแง่หนึ่ง คำมั่นของสมาชิกในการจำกัดการใช้จ่ายไม่เกิน 9.6 แสนล้านเยน (1.28 ล้านล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นการจำกัดงบประมาณครั้งแรกของอียูนั้น สอดคล้องกับความต้องการของผู้สนับสนุนงบประมาณสุทธิ ได้แก่อังกฤษ เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ที่ต้องการให้เกิดการรัดเข็มขัด
แต่อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงในงบประมาณฉบับนี้ ยังคงงบการให้เงินอุดหนุนภาคเกษตร และกองทุน Cohesion Funds เพื่อสร้างความพอใจให้แก่ผู้รับการสนับสนุนสุทธิอย่างฝรั่งเศส อิตาลี และชาติยุโรปตะวันออกบางประเทศ สำหรับกองทุน Cohesion Funds นั้น ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือประเทศที่ยากจนให้ตามทันประเทศอียูที่มีความมั่นคั่งกว่า
ทั้งนี้ แม้ว่าข้อตกลงดังกล่าวมีการจัดสรรเงินเพียง 6 พันล้านยูโร (ราว 8.02 พันล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยบรรเทาอัตราว่างงานในวัยหนุ่มสาวในอีก 7 ปีข้างหน้า แต่ข้อตกลงฉบับนี้แทบจะไร้ความหมายสำหรับประเทศอียูบางแห่งอย่างกรีซ และสเปน ซึ่งมีอัตราว่างงานพุ่งสูงมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจากวิกฤตที่ยืดเยื้อ
หลายฝ่ายเคยมองว่า การบรรลุทางการเงินของ 27 ชาติสมาชิกของอียูและสถาบันอีกหลายแห่งของอียู จะเป็น"ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้" เนื่องจากต่างฝ่ายต่างไม่เต็มใจที่จะเจรจาในประเด็นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน
แต่ในครั้งนี้ ผู้นำยุโรปซึ่งครั้งหนึ่งเคยประสบความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลง ได้แสดงให้เห็นถึง"ความรับผิดชอบร่วมกัน" โดยการบรรลุข้อตกลงงบประมาณ ซึ่งเป็นกุญแจไปสู่การคลี่คลายปมความกังวลในอียูที่กำลังเป็นประเด็นเร่งด่วน
บทวิเคราะห์โดย ฉง ต้าไห่ และเหมี่ยว เสี่ยวจุน จากสำนักข่าวซินหัว