นายอามาริระบุในการกล่าวสุนทรพจน์ว่า “เราต้องการเห็นนิกเกอิแตะที่ 13,000 จุดภายในสิ้นปีงบประมาณนี้"
“เราต้องการใช้มาตรการใหม่ๆอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น" นายอามาริกล่าว โดยอ้างถึงนโยบายที่สำคัญของฝ่ายบริหารของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ เพื่อส่งเสริมการผ่อนคลายทางการเงิน งบประมาณค่าใช้จ่าย และการลงทุนเพิ่มของภาคเอกชนอย่างกล้าหาญ
นายอามาริระบุว่า การปรับตัวขึ้นในระยะนี้ของดัชนีนิกเกอิหมายถึงมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 38 ล้านล้านเยนในบริษัทต่างๆของญี่ปุ่น ซึ่งรวมไปถึงสถาบันการเงิน พร้อมกับเสริมว่า มูลค่าที่สูงขึ้นดังกล่าวจะส่งผลดีต่อกิจกรรมต่างๆของบริษัท
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิเริ่มปรับตัวขึ้นจากระดับ 8,000 จุดในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากที่อดีตนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ ของญี่ปุ่นตัดสินใจกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปเป็นวันที่ 16 ธ.ค. ซึ่งพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของนายอาเบะได้กลับเข้ามามีอำนาจอีกครั้ง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การปรับตัวขึ้นอย่างกว้างขวางของราคาหุ้นโดยส่วนใหญ่เกิดจากปฏิกิริยาต่อการอ่อนค่าลงของเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ อันเนื่องมาจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการใช้มาตรการผ่อนคลายในเชิงรุกของธนาคารกลาง