นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน กล่าวว่า โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมเวสต์ห้วยบง 2 และเวสต์ห้วยบง 3 นับเป็นทุ่งกังหันลมแห่งแรกของประเทศ ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยกำลังการผลิตรวม 207 เมกะวัตต์ ผลิตไฟฟ้าจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้ปีละ 350 ล้านหน่วยต่อโครงการ ซึ่งโครงการเวสต์ห้วยบง 3 ได้ผลิตไฟฟ้าเข้าสู่ระบบแล้วเมื่อเดือน พ.ย.55 ส่วนโครงการเวสต์ห้วยบง 2 ได้เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา
ทั้งสองโครงการนอกจากจะช่วยเสริมระบบไฟฟ้าของประเทศให้มีความมั่นคง สามารถตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟได้ดียิ่งขึ้นแล้ว ยังส่งผลดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพราะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนได้โครงการละ 270,000 ตันต่อปี และช่วยลดการนำเข้าน้ำมันเตาเพื่อผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 90 ล้านลิตร คิดเป็นเงินประมาณ 1,900 ล้านบาท นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างงาน พัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและท้องถิ่นให้เติบโตได้อีกด้วย
รมว.พลังงาน กล่าวต่อว่า ความสำเร็จของโครงการดังกล่าวไม่เพียงสะท้อนประสิทธิผลนโยบายของภาครัฐ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนและขับเคลื่อนโครงการนี้ให้ก้าวหน้าและประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคประชาชนที่เล็งเห็นประโยชน์ของโครงการที่มีต่อชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศชาติเป็นสำคัญ ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานมีหน้าที่ในการพัฒนาพลังงานของประเทศให้มีความมั่นคง และยั่งยืนต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว รวมทั้งเตรียมพร้อมด้านพลังงานรองรับการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจและสังคมโลก ตลอดจนบรรลุเป้าหมายการนำประเทศสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 โดยมีนโยบายส่งเสริมการผลิต การใช้ การวิจัย และพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ซึ่งมีเป้าหมายให้เพิ่มการใช้พลังงานทางเลือกทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 25 ภายในปี 2564
ขณะที่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้ผลักดันนโยบายด้านพลังงานของรัฐบาล มุ่งเน้นสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทน เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล โดยเฉพาะในภาคการผลิตไฟฟ้าให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยความต้องการใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ ทำให้ประเทศต้องนำเชื้อเพลิงจากต่างประเทศเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้ามากขึ้นกว่าร้อยละ 70 ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทนอย่างจริงจังเพื่อให้เป็นเชื้อเพลิงทางเลือก นำมาใช้เสริมระบบไฟฟ้าของประเทศให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนากำลังการผลิตให้ได้ 1,200 เมกกะวัตต์ในอีก 8 ปีข้างหน้า
โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมเวสต์ห้วยบง 2 และเวสต์ห้วยบง 3 เป็นความร่วมมือของภาคเอกชน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตไฟฟ้าร่วมกันดำเนินการจนประสบความสำเร็จ ถือเป็นความภาคภูมิใจของพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมาและชาวไทยทุกคน เพราะทุ่งกังหันลมนอกจากจะเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่ช่วยเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศแล้ว ยังจะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ช่วยกระตุ้นความคิดของเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เกิดความตระหนักถึงการอนุรักษ์พลังงาน และในอนาคตต้องการเห็นพลังงานสีเขียวมากขึ้น พร้อมกับขอฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำงานร่วมกับภาคเอกชนและประชาชน ในการผลักดันโครงการพลังงานทดแทนและพัฒนาพื้นที่เวสต์ห้วยบง 2 และเวสต์ห้วยบง 3 ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานต่อไป