โดยเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก รวมถึงธุรกิจเกี่ยวข้องที่สามารถสนับสนุนกิจกรรมหลักของผู้ประกอบการได้ เช่น ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ, การบริการ และโลจิสติกส์รวม 150 กิจการที่ติดต่อทำธุรกรรมกับบริษัทญี่ปุ่น หรือได้รับมาตรฐานการผลิต เช่น มาตรฐาน อย., มาตรฐาน ISO/ TS16949, JIS หรือเป็นผู้ประกอบการที่ทั้ง 2 หน่วยงานเล็งเห็นถึงศักยภาพได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
นอกจากนี้เอสเอ็มอีแบงก์ได้สนับสนุนผู้ประกอบการด้านแหล่งเงินทุนและการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยในครั้งนี้มีหน่วยงานพันธมิตรได้เข้าร่วมออกบูธให้คำปรึกษาแนะนำในงาน คือ JCC, JETRO, BOI และ EXIM Bank เพื่อร่วมสร้างเครือข่ายความร่วมมือในระดับพหุพาคีในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจ APEC
น.ส.ปาริฉัตร กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้ได้จัดอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นการสร้างโอกาสและช่วยสร้างความมั่นใจแก่ผู้ประกอบการของทั้ง 2 ประเทศได้เป็นอย่างดี และผสานด้านความร่วมมือทางธุรกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มจะเกิดประโยชน์เมื่อนำมาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน นำมาซึ่งการสร้างโอกาสเติมเต็มศักยภาพให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและก้าวสู่การขยายเครือข่ายความร่วมมือในวงกว้าง โดยเฉพาะสร้างแรงจูงใจด้านการค้าการลงทุนให้น่าสนใจยิ่งขึ้น