(เพิ่มเติม) สภาพัฒน์ คงคาดการณ์ GDP ปี 56 โต 4.5-5.5%, ลดคาดการณ์ส่งออกเหลือ 11%

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 18, 2013 11:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ คาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 56 จะขยายตัวอยู่ที่ 4.5-5.5% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเริ่มมีความชัดเจนขึ้น, การฟื้นตัวของสินค้าคอมพิวเตอร์และอิเลคทรอนิคส์, ฐานการขยายตัวช่วงครึ่งปีแรกของปี 55 ยังต่ำ, อุปสงค์ในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี, เม็ดเงินที่ได้จากการเบิกจ่ายงบประมาณในภาครัฐ และแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ

สำหรับปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานสูงยังมีข้อจำกัดในการขยายตัว, ยังมีสภาพคล่องส่วนเกินในระบบเศรษฐกิจและการเงินโลก, สถานการณ์ภัยแล้งชะลอการผลิตในภาคเกษตร และราคาน้ำมันยังเพิ่มขึ้นเร็วกว่าพื้นฐานเศรษฐกิจ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่า สาเหตุที่คงคาดการณ์ GDP ในปี 56 ว่าจะขยายตัวที่ระดับ 4.5-5.5% นั้น เพราะเชื่อว่าการบริโภคภายในประเทศยังมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องมีภาคการส่งออกเข้ามาช่วยสนับสนุนหลังจากปีก่อนที่มีอัตราการขยายตัวค่อนข้างต่ำเพียง 5% ขณะเดียวกันจะต้องมีมาตรการดูแลเรื่องค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ และคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจในอนาคตด้วย

"(เงินบาท)จะแข็งค่าหรืออ่อนค่าไม่ใช่ปัญหา เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการเองก็เคยเผชิญปัญหาดังกล่าวมาแล้ว และสามารถปรับตัวรับสถานการณ์ได้ หากเงินบาทมีเสถียรภาพ ไม่แกว่งตัว จนทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถคำนวณต้นทุนในการทำธุรกิจได้" นายอาคม กล่าว

เลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจหลังเกิดอุทกภัยเมื่อปลายปี 54 กลับมาฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ดังนั้นจะต้องสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการเชื่อว่าต่อจากนี้ไปเศรษฐกิจจะขยายตัวปีละ 4-6% ดังนั้นจึงยังมีความต้องการเม็ดเงินลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างกำลังการผลิตใหม่ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การขนส่งระบบราง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านขนส่งจากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 25%

ส่วนปัจจัยเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่การปรับเปลี่ยนทุกครั้งก็จะมีทั้งข้อดี-ข้อเสียจึงเป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นรุนแรงในการแก้ไขปัญหา

เลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่า ส่วนกรณีปรับลดคาดการณ์ส่งออกปีนี้จะขยายตัวที่ระดับ 11% จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ 12.2% เพราะก่อนหน้านี้เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้นจากมาตรการแก้ปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐ แต่ในความเป็นจริงแล้วสหรัฐยังไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ เป็นเพียงมาตรการที่ช่วยยืดเวลาในการแก้ปัญหาดังกล่าวออกไปเท่านั้น ดังนั้นจึงเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวได้ช้ากว่าเดิม

"ภาพรวมเศรษฐกิจโลกแม้จะฟื้นตัวได้จริง แต่ก็อาจจะช้ากว่าเดิม เราจึงปรับลดเป้าหมายการส่งออกลงเล็กน้อย แม้เศรษฐกิจโลกยังมองว่าดี แต่เราต้องมั่นใจและปรับให้สอดคล้องกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ" นายอาคม กล่าว

โดยการส่งออกไปยังสหรัฐ แม้ยังคงมีปัญหาเศรษฐกิจแต่ก็ยังมีความจำเป็นในการบริโภค โดยสินค้าที่เห็นว่ามีศักยภาพทำตลาด ได้แก่ อาหารปลอดสารพิษ อาหารฮาลาล และสินค้าเพื่อสุขภาพ ขณะเดียวกันการส่งออกไปยังตลาดการค้าชายแดนประเทศเพื่อนบ้านยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ