โดยนางซุน หยา ฟาง ประธานกรรมการบริษัท หัวเว่ย(เทคโนโลยี) จำกัด ชี้แจงว่า บริษัทฯ มีระบบเทคโนโลยีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีและบริการพื้นฐานที่จะเป็นประโยชน์ต่อไทย ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาโครงข่ายการให้บริการการศึกษาในพื้นที่ห่างไกล(Smart-Education) ระบบการรักษาพยาบาลทางไกลผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต(Smart-Health) การให้บริการของภาครัฐทางการออนไลน์(Smart-Government) และระบบศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลการเกษตร(Smart-Agriculture)
โดยบริษัทฯ สนับสนุนนโยบายของไทยที่กำลังเร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ทั้งการยกระดับด้านการศึกษาเรียนรู้ของเยาวชนไทยผ่าน e-Learning การขยายโครงสร้างพื้นฐานของโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การขยายการบริการและธุรกรรมออนไลน์ของหน่วยงานภาครัฐ และการพัฒนาเทคโนโลยีการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ และยินดีสนับสนุนและร่วมพัฒนาเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้เพื่อการดำเนินนโยบายดังกล่าว
ขณะที่นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความขอบคุณที่บริษัทฯ สนับสนุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องและเห็นว่า เทคโนโลยีของบริษัทฯ มีความหลากหลายและสามารถนำมาใช้ร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทย เช่น ด้านการศึกษาและสาธารณสุข นอกจากนี้ความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีไอทีที่บริษัทฯ มียังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของไทยที่กำลังเร่งรัดพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและโครงข่ายสื่อสารความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วถึง และมีคุณภาพ เพื่อรองรับ AEC และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในระยะยาว