สำหรับทิศทางของค่าเงินบาทในวันนี้ ปัจจัยสำคัญขึ้นอยู่กับผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในช่วงบ่ายวันนี้ว่าจะมีมติเรื่องอัตราดอกเบี้ยอย่างไร เพราะหากปรับลดดอกเบี้ยลงจากปัจจุบันที่ระดับ 2.75% ก็จะส่งผลให้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงได้ แต่หากคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม เงินบาทก็น่าจะยังแข็งค่าอยู่ในระดับนี้ต่อ
"คงต้องรอผลประชุม กนง.บ่ายนี้ เพราะถ้ามีมติลดดอกเบี้ย เงินบาทก็จะอ่อนค่าลง แต่ถ้าไม่ลดบาทก็น่าจะแข็งค่าต่อ" นักบริหารเงินระบุ
ส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 93.65/69 เยน/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็นวานนี้อยู่ที่ระดับ 93.62/64 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3420/3422 ดอลลาร์/ยูโร จากปิดตลาดเย็นวานนี้อยู่ที่ระดับ 1.3367/3369 ดอลลาร์/ยูโร
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.80-29.90 บาท/ดอลลาร์
*ปัจจัยสำคัญ
- อัตราแลกเปลี่ยน บาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคาร ของ ธปท.วันนี้ อยู่ที่ 29.880 บาท
- เช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 93.65/69 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3420/3422 ดอลลาร์/ยูโร
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) จะมีมติในเรื่องการดำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยวันนี้
- ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในเยอรมนีที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 48.2 จาก 31.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ส่งผลให้เงินยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้น
- สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนของเยอรมนีที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเยน หลังจากรมว.คลังญี่ปุ่นยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้กดดันให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซื้อพันธบัตรต่างชาติ
- ตลาดหุ้นในเอเชียต่างปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเปิดตลาดเช้านี้ โดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนของเยอรมนีที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน รวมถึงแนวโน้มรายได้ของกลุ่มผู้ส่งออกที่สดใสขึ้นหลังเงินเยนอ่อนค่าลง
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้(19 ก.พ.) เนื่องจากตลาดขานรับดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนของเยอรมนีที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 5.3 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,604.2 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.2012 และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนย้ายฐานการลงทุนออกจากตลาดทองคำ