ทีเอ็มบีเชื่อว่า Sector — based Solution สำหรับอุตสาหกรรมยางพาราที่ทีเอ็มบีได้จัดสรรให้กับผู้ประกอบการนั้น สามารถตอบสนองความต้องการในการดำเนินธุรกิจของผู้ส่งออกยางได้อย่างครบถ้วน โดย Trade On Demand Financing เงินทุนหมุนเวียนที่ธนาคารนำเสนอ จะเป็นวงเงินที่เพียงพอสำหรับผู้ประกอบการจะนำไปใช้หมุนเวียนได้ทั้งก่อนและหลังการส่งออก ช่วยลดต้นทุนด้วยการคิดดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่ใช้จริง และลดภาระในการบริหารจัดการธุรกรรมทางการเงิน โดยธนาคารฯ จะดำเนินการด้านการจ่ายเงินแทนลูกค้า
สำหรับด้านธุรกรรมทางการเงิน ธนาคารฯ ได้นำเสนอบริการ TMB One Bank One Account เพื่อลดภาระในการทำธุรกรรมในประเทศให้กับผู้ประกอบการ โดยมั่นใจว่า ผู้ประกอบการจะได้รับบริการที่ช่วยให้การบริหารจัดการทางการเงินมีประสิทธิภาพสูงสุด
ORRAF e-CESS เป็นอีกหนึ่งบริการ ที่ทีเอ็มบีเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งเดียวที่ร่วมกับ ORRAF ได้พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชำระค่าเงินสงเคราะห์กองทุนสวนยางผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิคส์
ด้านนายวีระชัย อมรรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจการค้าต่างประเทศและบริการธุรกิจหลักทรัพย์ ทีเอ็มบี กล่าวว่า ธนาคารจะรับชำระค่าธรรมเนียมหรือที่เรียกว่าเงินสงเคราะห์โดยการหักเงินจากบัญชีของผู้ส่งออกยางผ่านระบบหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติของธนาคารในเวลาทำการปกติ หรือทำรายการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน และระบบจะนำเข้าบัญชีของสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางต่อไป ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความคล่องตัวในการทำรายการแล้ว ยังสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสำหรับผู้ที่ต้องกู้เงินมาเตรียมไว้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังได้จัดสัมมนา"ผนึกกำลังผู้ประกอบการยางภาคใต้" เพื่อมุ่งให้ความรู้และข้อมูลเศรษฐกิจแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยางภาคใต้ โดยนายสุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา จะมาปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “โอกาสและการเติบโตทางเศรษฐกิจ และความเคลื่อนไหว AEC เพื่ออุตสาหกรรมยางภาคใต้" เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในตลาดอาเซียนมากยิ่งขึ้น รวมถึงได้ตระหนักถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมหภาคที่อาจจะส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรม ด้วยการบรรยายพิเศษของ นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี เจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลและความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในการดำเนินธุรกิจให้เติบโต เข้มแข็ง อย่างยั่งยืนต่อไป