ยูโรร่วงต่ำกว่า $1.32 หลังดัชนี PMI ภาคการผลิต-ภาคบริการยูโรโซนหดตัว

ข่าวต่างประเทศ Thursday February 21, 2013 20:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1.32 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีภาคบริการและการผลิตเดือนก.พ.ในยูโรโซนหดตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ ณ เวลา 07.01 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ สกุลเงินยูโรดิ่งลง 0.7% มาอยู่ที่ระดับ 1.3168 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกันยูโรร่วงลง 1.5% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 122.44 เยน และเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 92.88 ดอลลาร์สหรัฐ

ผลสำรวจของมาร์กิตแสดงให้เห็นว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนก.พ.ลดลงสู่ระดับ 47.8 จาก 47.9 ในเดือนม.ค. เช่นเดียวกับดัชนี PMI เบื้องต้นภาคบริการที่หดตัวลงแตะ 47.3 จาก 48.6 ในเดือนก่อนหน้า

ผลสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่าดัชนี PMI เบื้องต้นทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนต่างก็หดตัวรุนแรงขึ้น โดยดัชนีปรับตัวต่ำกว่า 50 ซึ่งแสดงถึงภาวะหดตัวของกิจกรรมทางธุรกิจ

ดัชนี PMI เบื้องต้นของยูโรโซนที่ย่ำแย่ลงสอดคล้องกับข้อมูล PMI เบื้องต้นของประเทศขนาดใหญ่ในภูมิภาคอย่าง ฝรั่งเศส ซึ่งแม้ว่าดัชนี PMI ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของฝรั่งเศสต่างก็หดตัวรุนแรงขึ้น

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นขึ้นหลังจากรายงานการประชุมของเฟดส่งสัญญาณว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ยังคงมีความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันเกี่ยวกับระยะเวลาและปริมาณการซื้อพันธบัตร โดยกรรมการบางคนของเอฟโอเอ็มซีกล่าวว่า โครงการซื้อพันธบัตรอาจจำเป็นต้องยุติก่อนที่อัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่าระดับ 6.5%

ส่วนในการประชุมเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา เฟดประกาศว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 4 (QE4) ที่เฟดประกาศใช้ในเดือนธ.ค. 2555 และซื้อหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) วงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ตามมาตรการ QE3 ที่ประกาศใช้ในเดือนก.ย. 2555 โดยมาตรการ QE3 และ QE4 มีวงเงินรวมกันทั้งสิ้น 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ