การเพิ่มขึ้นของยอดขายบ้านมือสองออกมาสอดคล้องกับที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ก่อนหน้านี้ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า แม้ว่าตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านหดตัวลง 8.5% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 890,000 ยูนิต แต่ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการก่อสร้างในอนาคต เพิ่มขึ้น 1.8% แตะที่ 925,000 ยูนิต นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมิ.ย.2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าตลาดที่อยู่อาศัยจะช่วยตัวกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในปีนี้
ขณะเดียวกัน ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ถูกปรับเพิ่มเป็น 973,000 ยูนิต
นอกจากนี้ NAR เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ราคาบ้านเดี่ยวปรับตัวขึ้นใน 133 เมือง หรือคิดเป็น 88% จาก 152 เมืองใหญ่ของสหรัฐในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว เทียบกับไตรมาส 3 ที่ราคาบ้านเพิ่มขึ้นใน 120 เมือง
ณ สิ้นไตรมาส 4 ปี 2555 มีบ้านมือสองสำหรับขายจำนวน 1.82 ล้านหลัง ลดลง 22% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ราคาเฉลี่ยสำหรับบ้านเดี่ยวมือสองอยู่ที่ 178,900 ดอลลาร์ในไตรมาสดังกล่าว ปรับตัวขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายปี นับตั้งแต่ปี 2548
ทั้งนี้ เมืองที่มีราคาบ้านปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดคือ ฟีนิกซ์ โดยราคาบ้านในเมืองฟีนิกซ์เพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อนหน้า ตามด้วยดีทรอยท์เพิ่มขึ้น 31% และซานฟรานซิสโกเพิ่มขึ้น 28%