นายเชษฐ โพธิวงศาจารย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิสแพค จำกัด กล่าวว่า ทิศทางในปี 56 คาดว่าบริษัท วิสแพค รายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 15% โดยตั้งเป้าหมายรายได้ปี 56 ไว้ที่ 500 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากกลุ่มธุรกิจสินค้า 4 กลุ่ม ที่จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น 1. ประเภทพื้น กระเบื้องไวนิล อาร์มสตรอง, พรมดักฝุ่นทางเข้าหน้าอาคาร เอบีไอ (ABI),พื้นคอนกรีตขัดเงาระบบแห้ง เอชทีซี (HTC) 2. ประเภทหลังคา แผ่นหลังคาอลูมิเนียม อัลลอย แคลซิบ แผ่นโพลีคาร์บอเนต แดนพาลอน 3. ประเภทเคมีภัณฑ์เพื่อการก่อสร้าง ระบบกันซึมชั้นใต้ดินไปจนถึงดาดฟ้าอาคาร 4.ประเภทผลิตภัณฑ์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม เครื่องผลิตน้ำร้อนพลังแสงอาทิตย์ รวมถึงการขยายธุรกิจเดิม การเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางเลือก (House brand) ให้กับลูกค้า ขยายฐานลูกค้าไปสู่ต่างประเทศ และลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ Renovate คอนโด โดยซื้อพื้นที่โครงการบางส่วนที่มีทำเลดีใกล้ชุมชน หรือติดสถานีรถไฟฟ้า ย่านบางนา อารีย์และพระราม 9 ซึ่งจะเป็นการตกแต่งใหม่โดยใช้วัสดุก่อสร้างของวีสแพคเอง
ทั้งนี้ในอนาคตมีแผนที่จะดำเนินโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่จ.กาญจนบุรี เพื่อเตรียมรองรับการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังจากเปิดโครงการเขตเศรษฐกิจทวายในประเทศพม่า ซึ่งดำเนินการภายใต้ชื่อ "บานาน่า รีสอร์ท แอนด์ สปา" เนื้อที่กว่า 10 ไร่ อีกทั้งยังเตรียมนำที่ดินกว่า 100 ไร่ ที่อยู่ติดกับรีสอร์ทมาพัฒนาภายใต้ชื่อโครงการ “ทวาย ริเวอร์แคว วัลเลย์” ในรูปแบบรีสอร์ท จำนวน 50-60 หลัง
สำหรับปีนี้ วิสแพค มีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในธุรกิจประเภทก่อสร้าง Vispac Cambodia ไปยังประเทศพม่า ประเทศลาว และประเทศอินโดจีน ซึ่งจะเป็นการลงทุนแบบเดียวกับประเทศกัมพูชาที่มีการบุกตลาดไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในสัดส่วน 50-50% เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอีก 3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ บริษัทวางแผนเช่าที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมทวาย ซึ่งเชื่อว่าจะมีปัญหาน้อยกว่าการเช่าที่ดินนอกนิคมอุตสาหกรรม โดยเตรียมเช่าที่ดินประมาณ 15 ไร่ ระยะเวลาเช่า 75 ปี เพื่อลงทุนสร้างโรงงานเคมี หรือวัตถุดิบ เพื่อสนับสนุนธุรกิจหลักในประเทศไทย