"การนิคมฯ จะตั้งวอร์รูมเป็นตัวกลางรับข้อมูลจาก 3 การไฟฟ้า เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนแผนการช่วยประหยัดการใช้ไฟฟ้าที่ชัดเจนนั้น การไฟฟ้าส่วนฝ่ายผลิตฯ จะส่งให้การนิคมฯ ในวันพรุ่งนี้(27 ก.พ.) และจะจัดทำเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในวันที่ 14 มีนาคมนี้" นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการ กนอ.กล่าวภายหลังหารือร่วมกับผู้บริหารหร่วยงานด้านไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง
ทั้งนี้ ทุกฝ่ายได้ให้ความมั่นใจแก่ผู้ประกอบการว่าสถานการณ์ไฟฟ้าในช่วงที่พม่าหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาตินั้นจะสามารถควบคุมได้ แต่ขอให้ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของวัน คือ เวลา 13.00-15.00 น.
ผู้ว่าการ กนอ.กล่าวว่า สำหรับนิคมอุตสาหกรรมที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ นิคมอุตสาหกรรมบางชันที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงว่ากระแสไฟฟ้าจะตก ซึ่งอาจกระทบต่อการผลิตอาหาร เนื่องจากมีโรงงานผลิตอาหารแปรรูปกว่า 80 โรง
"หน่วยงานด้านไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งก็ได้แจ้งกับทางนิคมฯ ว่าสามารถบริหารจัดการได้ เพียงแต่มีโอกาสที่ไฟฟ้าแรงดันจะตกแต่ไม่ถึงขั้นไฟฟ้าดับ" นายวีรพงศ์ กล่าว
ด้านนายธนา พุฒรังสี รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวว่า แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทราบล่วงหน้าและวางแผนรับสถานการณ์เอาไว้แล้ว แต่ยังมีโอกาสที่ไฟฟ้าดับได้ เนื่องจากในวันที่ 5 เม.ย.นี้จะมีกำลังปริมาณไฟฟ้าสำรองเหลือเพียง 700 เมกะวัตต์ ต่ำกว่ามาตรฐานของ กฟผ.ที่ 1,200 เมกะวัตต์ แต่หากภาคอุตสาหกรรมช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงสูงสุด หรือ Peak Load ลงจะทำให้กำลังการผลิตสำรองเพิ่มขึ้นอีกเป็น 800 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ส่วนหนึ่ง