(เพิ่มเติม) พณ.เผยม.ค.56 ส่งออกโต 16.09% นำเข้าโต 40.87% ขาดดุล 5.4 พันล้านดอลลาร์

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 27, 2013 11:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนม.ค.56 ว่า การส่งออกในเดือนนี้ขยายตัว 16.09% คิดเป็นมูลค่า 18,269 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าขยายตัวสูงถึง 40.87% คิดเป็นมูลค่า 23,755 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ในเดือนม.ค.56 ไทยขาดดุลการค้าราว 5,486 ล้านดอลลาร์

โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการส่งออกในเดือนม.ค. คือ ความต้องการสินค้าในตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน, ความต้องการสินค้าของจีนที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากนโยบายด้านเศรษฐกิจของจีนที่กระตุ้นการผลิตและการบริโภคในประเทศ ทำให้จีนมีแนวโน้มที่จะนำเข้าวัตถุดิบเพิ่มมากขึ้น และค่าเงินหยวนที่คาดว่าจะแข็งค่าขึ้นประมาณร้อยละ 2-3 ทำให้จีนมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ การเปิดการเจรจาเขตการค้าเสรีไทย-ยุโรป ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อการค้าของไทยกับสหภาพยุโรป, ภาคการส่งออกของญี่ปุ่นที่น่าจะขยายตัว เนื่องจากนโยบายการเงินให้ค่าเงินเยนอ่อนเพื่อกระตุ้นภาคการส่งออก ซึ่งส่งผลดีกับสินค้าที่อยู่ใน supply chain ของญี่ปุ่นที่มีฐานการผลิตในไทย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์, การกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้นจากประเทศผู้นำเข้าต่างๆ เช่น อินโดนีเซีย(เพิ่มมาตรการการขออนุญาตการนำเข้าสินค้าอาหาร) เวียดนาม(จำกัดปริมาณการนำเข้าสินค้าวัสดุก่อสร้าง) ส่งผลต่อการนำเข้าสินค้าไทย

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การส่งออกสินค้าในเดือนม.ค.56 เพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้า โดยหมวดสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมเกษตรเพิ่มขึ้น 7.2% โดยสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว เพิ่มขึ้น 31.3% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น 26.5% อาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป (ไม่รวมกุ้ง) เพิ่มขึ้น 14.6% ผักและผลไม้ เพิ่มขึ้น 23.3% เป็นต้น

ส่วนหมวดสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ เพิ่มขึ้น 20.9% โดยสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มขึ้น 29.8% เครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 20.5% ยานยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่มขึ้น 40.3% เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก เพิ่มขึ้น 22.8% เป็นต้น ส่วนหมวดสินค้าอื่นๆ เพิ่มขึ้น 10%

สำหรับการส่งออกเป็นรายตลาดนั้น พบว่า ภาพรวมส่งออกเพิ่มขึ้นทุกตลาด โดยตลาดหลัก ภาพรวมเพิ่มขึ้น 15.5% โดยตลาดญี่ปุ่น เพิ่ม 7.3% สหรัฐอเมริกา เพิ่ม 16.7% และสหภาพยุโรปสมาชิกเดิม 15 ประเทศ เพิ่ม 24.5% ส่วนตลาดศักยภาพสูง ภาพรวมเพิ่มขึ้น 22.2% ขณะที่ตลาดศักยภาพระดับรอง ภาพรวมเพิ่มขึ้น 20.5%

ขณะที่ในแง่ของการนำเข้าสินค้าเดือนม.ค.56 พบว่า การนำเข้าขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกหมวดสินค้า โดยหมวดเชื้อเพลิง เพิ่มขึ้น 61% หมวดสินค้าทุน เพิ่มขึ้น 36.4% หมวดวัตถุดิบ/กึ่งสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น 37.4% หมวดอุปโภค/บริโภค เพิ่มขึ้น 22.7% หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง เพิ่มขึ้น 70.3% และหมวดอาวุธยุทธปัจจัย และสินค้าอื่นๆ เพิ่มขึ้น 87.8%

ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีผลต่อการนำเข้าในเดือนนี้ ประกอบด้วย การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น เนื่องจากการขยายตัวของภาคการขนส่ง การผลิต และการส่งออก, การนำเข้าสินค้าเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ซึ่งไทยไม่สามารถผลิตได้ และเป็นช่วงสิ้นปีที่บริษัทผู้ผลิตมีการสับเปลี่ยนเครื่องจักรในการผลิตสินค้ารุ่นใหม่ ประกอบกับค่าเงินบาทแข็งเป็นสิ่งจูงใจให้มีการซื้อเครื่องจักรใหม่

นอกจากนี้ ยังมีการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ (อาทิ เพชรพลอย เงินแท่ง ทองคำ เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ ) เพื่อมาใช้ในการผลิตเพื่อส่งออก, การนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ผักและผลไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เวชภัณฑ์และเภสัชกรรมในช่วงเทศกาลตรุษจีน รวมทั้งการนำเข้ารถยนต์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์เพิ่มขึ้นตามความต้องการในประเทศที่เพิ่มขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ