ที่ผ่านมานั้น ภาวะซบเซาในตลาดแรงงานของสหรัฐทำให้รัฐบาลสหรัฐ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความวิตกกังวลว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐเป็นไปอย่างเชื่องช้า โดยล่าสุด เบนเบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวต่อสภาคองเกรสว่า มาตรการ QE หรือโครงการซื้อพันธบัตรของเฟดถือเป็นสิ่งจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอ และจะช่วยสร้างงานให้กับชาวอเมริกัน
“อัตราว่างงานสูงได้สร้างความเสียหายอย่างมาก ซึ่งมีเพียงแต่ทำให้ผู้ว่างงานและครอบครัวของพวกเขาต้องเผชิญกับความยากลำบากเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อศักยภาพและแนวโน้มการผลิตของเศรษฐกิจของเราโดยรวมอีกด้วย ขณะที่อัตราว่างงานสูงกว่าระดับปกติอยู่มากและเงินเฟ้อบรรเทาลงนั้น ความคืบหน้าสู่เป้าหมายว่าด้วยการจ้างงานสูงสุดและความมีเสถียรภาพด้านราคาของเฟดนั้น ต้องอาศัยนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างมาก" เบอร์นันเก้กล่าวต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐ
ก่อนหน้านี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ต้วเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 157,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราว่างงานในเดือนม.ค.ที่ระดับ 7.9% ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 7.8% ในเดือนธ.ค. โดยข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับที่ ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ รายงานไว้ก่อนหน้านี้ว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 192,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานสหรัฐกระเตื้องขึ้น