"รู้สึกเบาใจขึ้น เพราะว่าขณะนี้ในด้านการผลิตไฟฟ้า ทาง กฟผ.(การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย) ได้รายงานว่าจะมีสำรองไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในช่วงก๊าซพม่าหยุดส่ง เพราะทั้งผู้ผลิตในและต่างประเทศจะผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น สำรองไฟฟ้าจะเพิ่มเป็นกว่า 1,000 เมกะวัตต์ จากเดิมคาดว่าจะเหลือ 750 เมกะวัตต์ ขณะที่พีก(ความต้องใช้ไฟฟ้าสูงสุด)ในวันที่ 5 เมษายนคาดว่าจะลดต่ำกว่าเดิมที่คาดไว้ว่าจะมีประมาณ 26,300 เมกะวัตต์ เนื่องจากเมื่อมีกระแสข่าวออกไปทุกภาคส่วนได้ให้ความร่วมมือลดใช้พลังงานทั้งประชาชน ห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม จึงเชื่อว่าพีกจะลดลง แต่จะเป็นมากน้อยแค่ไหน กระทรวงฯจะร่วมประชุมกับทุกฝ่ายภายในกลางเดือนมีนาคม" นายพงษ์ศักดิ์ รัตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน กล่าว
รมว.พลังงาน กล่าวถึงการเดินทางไปมาเลเซียร่วมกับคณะของนายกรัฐมนตรีวานนี้(28 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้เสนอ โครงการให้ไทยร่วมลงทุนโครงการท่อขนส่งน้ำมันจากโรงกลั่นน้ำมันในรัฐเคดะห์มาเลเซียมายัง จ.สงขลา ประกอบด้วย ท่อขนส่งน้ำมันดิบ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และน้ำมันเบนซิน 5 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็นท่อเชื่อมระหว่างฝั่งทะเลอันดามัน-อ่าวไทย สามารถส่งขายไปยังประเทศด้านตะวันออกไกล ลดปัญหาจราจรคับคั่งในช่องแคบมะละกาที่ขณะนี้มีการขนส่ง 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่มีปริมาณความจุขนส่งเพียง 20 ล้านบาร์เรลต่อวันเท่านั้น
"ทางมาเลเซียยังได้เสนอว่าโครงการนี้น่าจะเป็นการร่วมทุนระหว่าง ปตท.และผู้ร่วมทุนของมาเลเซียคือ ปิโตรนาส และเอสเคเอส. อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายไทยได้แจ้งให้ทราบว่าโครงการร่วมทุนระหว่างประเทศเช่นนี้ต้องจัดรับฟังความเห็นจากประชาชนร่วมทั้งต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ก่อน" นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้มาเลเซียได้เสนอขายไฟฟ้าถ่านหินในอนาคตจำนวน 1,600 เมกะวัตต์ ซึ่งไทยได้แจ้งว่าจากความต้องการไฟฟ้าในภาคใต้ปริมาณต่ำ และมีปัญหาสายส่งรับไฟฟ้าอาจจะซื้อได้ประมาณ 400-600 เมกะวัตต์เท่านั้น