สำหรับกลุ่มอียู ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 27 ประเทศ รวมถึงประเทศที่ไม่ได้ใช้เงินยูโรนั้น อัตราว่างงานปรับตัวขึ้นแตะ 10.8% ในเดือนม.ค. จาก 10.7% ในเดือนก่อนหน้า
ประเทศสมาชิกที่มีอัตราว่างงานสูงสุดคือกรีซที่ 27% ตามด้วยสเปน 26.2% และโปรตุเกส 17.6% ขณะที่ออสเตรียมีอัตราว่างงานต่ำสุดที่ 4.9% รองลงมาคือเยอรมนีและลักเซมเบิร์ก เท่ากันที่ 5.3% และเนเธอร์แลนด์ 6%
เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว อัตราว่างงานทั้งในยูโรโซนและอียูพุ่งขึ้นอย่างมาก โดยอัตราว่างงานเดือนม.ค.2555 อยู่ที่ 10.8% ในยูโรโซน และ 10.1% ในอียู
ยูโรสแตทประเมินว่า ประชากรชายและหญิงจำนวน 26.217 ล้านคนในอียูไม่มีงานทำในเดือนม.ค.2556 โดย 18.998 ล้านคนในจำนวนนี้อยู่ในยูโรโซน
ขณะเดียวกัน ยูโรสแตทยังได้เปิดเผยในวันเดียวกันว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนลดลงสู่ระดับ 1.8% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และสอดคล้องกับเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 2%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า อัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดทำสถิติในปี 2538 และตัวเลขเงินเฟ้อในระดับต่ำทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นที่อีซีบีอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ จากระดับปัจจุบันที่ 0.75%
ซาราห์ ฮิววิน จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กล่าวว่า ข้อมูลทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนการลดดอกเบี้ย ซึ่งทางสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 2