นายหลินระบุว่าเขาไม่ได้พูดเกินความจริง เนื่องจากเศรษฐกิจจีนมีศักยภาพอย่างยิ่งในเรื่องทุนที่มีความได้เปรียบจากการเป็นผู้เคลื่อนไหวรายทุดท้าย
นายหลินซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยพีคิง ระบุในสุนทรพจน์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีนว่า “หากข้อได้เปรียบจากการเป็นผู้เคลื่อนไหวรายสุดท้ายได้ถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่ จีนจะสามารถรักษาอัตราการขยายตัวที่ 8% ต่อปีต่อไปได้อีก 20 ปี"
นอกจากนี้ นายหลินยังกล่าวถึงสถานะการเงินของรัฐบาลจีนว่า โครงการหลายอย่างที่ได้รับผลตอบจากการลงทุนแทนสูง ยอดเงินฝากธนาคารจำนวนมหาศาล และทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ ต่างก็เป็นข้อดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะสั้น
แต่อย่างไรก็ดี นายหลินชี้ว่า จีนยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง เช่น ช่องว่างระหว่างในเมืองและชนบท ช่องว่างรายได้ การถอยหลังในเรื่องพัฒนาการทางสังคม ความขัดแย้งเกี่ยวกับแหล่งทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม การค้ากับต่างประเทศที่ไร้สมดุล การทงทุนที่ร้อนแรงจนเกินไป การศึกษา เทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ การคอร์รัปชั่น ตลอดทั้งกฎหมายและและกลไกด้านการเมือง
“การรักษาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนขึ้นอยู่กับการแก้ปัญหาความท้าทายเหล่านี้" เขากล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน