กฟผ.ระดมกำลังผลิตไฟฟ้ารองรับช่วงพม่าหยุดจ่ายก๊าซแหล่งยาดานา 5-14 เม.ย.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 5, 2013 15:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการ กฟผ. เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรองรับกรณีสหภาพพม่าหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติว่า สืบเนื่องจากสหภาพพม่าจะทำการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติแหล่งยาดานาเพื่อซ่อมแท่นขุดเจาะ ระหว่างวันที่ 5 - 14 เมษายน 2556 กฟผ.ได้เตรียมแผนผลิตไฟฟ้าโดยใช้น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าทดแทน โดยคาดว่าจะใช้น้ำมันเตาประมาณ 56 ล้านลิตร และน้ำมันดีเซล 47 ล้านลิตร

นอกจากนี้ยังได้เตรียมพร้อมมาตรการรองรับหลายด้านทั้งด้าน Supply side และ Demand side โดย ด้าน Supply side ได้เลื่อนการหยุดซ่อมบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ออกไป เพื่อให้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าตามปกติ, ประสานงาน IPP, SPP ที่มีกำลังผลิตเหลือให้ผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติม, ประสานงานซื้อไฟฟ้าเพิ่มจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ สปป.ลาว และประสานงานซื้อไฟฟ้าจากประเทศมาเลเซียเพิ่มเติมอีก 200 เมกะวัตต์ เพื่อช่วยเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าแก้ปัญหาแรงดันไฟฟ้าในภาคใต้ โดยการดำเนินงานด้าน Supply side นี้ คาดว่าจะทำให้มีกำลังผลิตสำรองเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีประมาณ 700 เมกะวัตต์ เป็นประมาณ 1,000 เมกะวัตต์

สำหรับการดำเนินงานด้าน Demand side ได้ประสานงานสภาอุตสาหกรรม และโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 40 แห่ง ขอให้ลดกำลังการผลิตลง ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยขณะนี้บริษัทในเครือ ปูนซีเมนต์ไทย (SCG) ได้ตอบรับที่จะลดกำลังการผลิตลงแล้ว ซึ่ง กฟผ. จะยังคงรณรงค์หาเครือข่ายเพิ่มเติมอีก

นอกจากนี้ กฟผ. ได้ร่วมกับกระทรวงพลังงานจัดกิจกรรมรณรงค์ “5 เมษายน ปฏิบัติการช่วยชาติ ลดไฟฟ้า 1 ชั่วโมง" ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เชิญชวนให้ประชาชนลดการใช้ไฟฟ้าลง โดยเฉพาะช่วงเวลา 14.00-15.00 น. ซึ่งจากปี 2555 ที่ผ่านมากิจกรรมดังกล่าวสามารถลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ถึง 500 เมกะวัตต์

“นับเป็นครั้งแรกที่การแก้ไขภาวะวิกฤติด้านพลังงานดำเนินการทั้งด้านผู้ผลิตและผู้ใช้ไฟฟ้า เพราะประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้ามีส่วนอย่างมากที่จะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าของประเทศ โดยคาดว่ากิจกรรมวันที่ 5 เมษายน นี้ จะสามารถลดการใช้ไฟฟ้าภาคประชาชนลงไปได้ประมาณ 500 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้มีกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองที่สามารถเดินเครื่องได้ทันที หรือ Hot Standby เพิ่มขึ้นเป็น 1,500 เมกะวัตต์ตามมาตรฐาน ระบบไฟฟ้าของประเทศก็จะมีความมั่นคงมากขึ้น" ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าว

นายสุทัศน์ กล่าวว่า การหยุดจ่ายก๊าซจากสหภาพพม่าครั้งนี้ช่วงบ่ายของวันที่ 5 เมษายน 2556 ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดประมาณ 26,300 เมกะวัตต์ จะเป็นช่วงที่สถานการณ์น่าเป็นห่วงที่สุด แต่หลังจากนั้นเป็นวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และเริ่มเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ เป็นช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลง คาดว่าสถานการณ์จะไม่น่าวิกฤติ แต่อย่างไรก็ตามหากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าดับทั้งประเทศ กฟผ.จะทำการตัดไฟฟ้าเฉพาะจุดและเฉพาะพื้นที่เท่านั้น โดยจะตัดเฉพาะภาคครัวเรือน โดยยกเว้นนิคมอุตสาหกรรมและสถานที่สำคัญ เช่น โรงพยาบาล

“ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนประหยัดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเฉพาะในส่วนของสำนักงาน อาคารที่ทำการ กฟผ. ควรลดการใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นลง เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม และผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. นอกจากเป็นแบบอย่างในการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดแล้วควรรณรงค์ให้ครอบครัวและคนรอบข้างประหยัดการใช้ไฟฟ้าด้วย เพราะจะช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงน้ำมันที่มีราคาแพงลง ซึ่งจะส่งผลให้ค่า Ft มีราคาไม่แพงมากจนเกินไป" ผู้ว่าการกฟผ. กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ