รัฐบาลเผยมอร์แกนฯมองศก.ไทยมีแนวโน้มดีจากผลนโยบายนำพาประเทศสู่การพัฒนา

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 8, 2013 16:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง Mr.Ruchir Sharma, Head of Morgan Stanley Investment Management’s (MSIM) Emerging Market Equities and Global Macro Funds เข้าเยี่ยมคาราวะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทย

ทั้งนี้ Morgan Stanley มั่นใจในแนวทางการพัฒนาประเทศของรัฐบาล และด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง และมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ นาย Ruchir Sharma มีผลงานการเขียนหนังสือชื่อ Breakout Nation: In Pursuit of the Next Economic Miracle แสดงทัศนะเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ในโลกรวมถึงประเทศไทย โดยนาย Sharma ได้แสดงความความคิดเห็นว่า การบริหารงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาได้สร้างความมีเสถียรภาพมากขึ้นและมีพลังใหม่ในการขับเคลื่อนประเทศ (fresh energy) ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาประเทศได้อย่างแท้จริง ภายหลังจากการชะงักงันทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา

และนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันที่ให้ความสำคัญแก่ประชาชนยากจนในชนบท เป็นทิศทางที่ถูกต้องในการสร้างพลังและการมีส่วนร่วมให้กับประชาชน ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งหากประเทศไทยสามารถแก้ไขปัญหาช่องว่างของรายได้และการพัฒนาระหว่างเมืองกับชนบทได้ ไทยจะสามารถก้าวเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้

นายสุรนันท์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันถึงความตั้งใจในการทำงานและอธิบายถึงทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในอนาคตและการขยายตัวทางเศรษฐกิจอันมาจากการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ตลอดจนการสร้างความเชื่อมั่นต่อนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้รัฐบาลเองให้ความสำคัญแก่การสร้างความสมานฉันท์ในประเทศ ซึ่งนาย Sharma เห็นว่า ความเข้มแข็งทางการเมืองนับปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ

นอกจากนี้ นาย Sharma ได้สนใจเกี่ยวกับเป้าหมายของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องการเห็นความสำเร็จใน 3 เป้าหมายหลัก ได้แก่ 1) การกระจายรายได้สู่ประชาชน (Income Distribution) เพื่อลดช่องว่างทางรายได้ 2) การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน (sustainable growth) ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบบริหารจัดการน้ำ การจัดโซนนิ่งภาคเกษตร เพื่อสร้างอุปทานในประเทศ (domestic demand) เพื่อทดแทนการพึ่งพาการส่งออก 3. การปรับโครงสร้างประเทศ และจัดวิธีการบริหารงานเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพ

นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวย้ำถึงแผนยุทธศาสตร์ประเทศไทย ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน และความได้เปรียบของประเทศไทยในการเป็นประตูสู่ประชาคมอาเซียนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยสำหรับนักลงทุน และเชิญชวนให้บริษัท Morgan Stanley ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของสหรัฐอเมริกา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ