คลัง เผย พ.ร.บ.PPP เปิดทางเอกชนร่วมลงทุนรัฐอย่างโปร่งใส เป็นสากล ลดขั้นตอน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 8, 2013 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership : PPP) ที่สำคัญคือการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ โดยแผนมีการกำหนดระยะเวลาในแต่ละขั้นตอนที่ชัดเจน ลดขั้นตอนดำเนินการ ให้เหลือเสนอ ครม.เพียงขั้นตอนเดียว ทำให้เริ่มโครงการได้เร็วขึ้น

การจัดตั้งคณะกรรมการ PPP ช่วยให้มีการดูแลงานต่างๆได้อย่างเป็นระบบ อีกทั้งมีข้อกำหนดสัญญามาตรฐานที่เป็นสากล สร้างความเชื่อมั่นและเป็นที่ยอมรับของเอกชน และมีกองทุนส่งเสริมการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ เพื่อผลักดันให้มีการจัดทำโครงการที่รวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ PPP จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน โดยจัดทำโครงการที่เป็นเชิงสังคม จาก พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ฉบับเดิมไม่ได้กำหนดไว้

ทั้งนี้ การลงทุนใน PPP ไม่เป็นการก่อหนี้สาธารณะ แต่เปิดโอกาสเอกชนที่เข้ามาลงทุนเป็นผู้รับความเสี่ยงจากการลงทุน ซึ่งความเสี่ยงที่เอกชนได้รับก็มีผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในโครงการนั้นๆกลับเข้ามาเช่นกัน

ส่วนผลตอบแทนของภาครัฐที่ได้รับจะมาจากรายได้ทางอ้อม คือ ภาษี ซึ่งการลงทุนนั้นรัฐเป็นผู้ลงทุนมากกว่าเอกชน อย่างเช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ภาครัฐลงทุนในที่ดิน ระบบราง สถานี ส่วนเอกชนจะเข้ามาลงทุนในการบริหารจัดการ ทำให้ต้นทุนในการบริหารจัดการของเอกชนไม่สูงนัก ราคาที่ให้บริการมีความเหมาะสม

"การที่รัฐลงทุนไปสามารถสร้างการจ้างงานได้มากขึ้น ประชาชนมีรายได้ มีการจับจ่ายใช้สเย รัฐก็ได้ภาษีกลับมา ขณะที่การลงทุนเป็นการขยายความเจริญเข้าไปตามภูมิภาคทำให้มีความเจริญขยายตัวมากขึ้น ระบบโลจิสติกส์ต่างๆมีการพัฒนาอย่างดี ต้นทุนค่าขนส่งของเอกชนลดลง ทำให้มีกำไรมากขึ้น ภาษีที่รัฐได้ก็่มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งสิ่งที่รัฐลงทุนไปนั้น ผลตอบแทนจะมาจากทางอ้อมมากกว่า ซึ่งรัฐเองก็ไม่ได้หวังรายได้จากการบริการ" นายประสงค์ กล่าว

ผอ. สคร. กล่าวอีกว่า โครงการลงทุนภาครัฐในอดีตที่เคยยกเลิกไป สามารถปัดฝุ่นกลับมาพิจารณาได้ใหม่ โดยเป็นการลงทุนแบบ PPP เพราะหากเป็นทรัพย์สินของรัฐ และสามารถสร้างประโยชน์ให้กับภาครัฐและสังคมได้ก็นำมาใช้พัฒนาในโครงการใหม่ได้ อย่างเช่น โฮปเวล อย่างไรก็ตาม การที่เอกชนเข้าร่วมลงทุน PPP เอกชนยังสามารถนำสินทรัพย์ในโครงการที่ได้เริ่มทำไปแล้วใน PPP นำมาขายเข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้เช่นกัน เพื่อนำเงินทุนมาพัฒนาในโครงการใหม่ๆ

นายประสงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้พระราชบัญญัติการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ อยู่ระหว่างรอการลงราชกิจจานุเบกษา คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์จะเสร็จเรียบร้อย และโครงการต่างๆคาดว่าจะเริ่มได้อย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นปี 57


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ