สำหรับการประชุมครั้งนี้มีความสำคัญเนื่องจากจะมีการรับรองปฏิญญาเวียงจันทน์ และแผนปฏิบัติการ ACMECS ปี ค.ศ.2013-2015 ซึ่งประเทศไทยเป็นผู้ยกร่าง เน้นการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนร่วมกัน ด้วยการเชื่อมโยงให้ประเทศ ACMECS เป็นฐานการผลิตเดียวตามแนวทางการเป็นประชาคมอาเซียน เพื่อให้เป็นห่วงโซ่การผลิตทั้งด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก โดยไทยในฐานะประเทศที่มีบทบาทนำ และเป็นผู้ริเริ่มกรอบความร่วมมือ ACMECS จะยืนยันบทบาทของไทยในการเป็นประเทศผู้ให้ เพื่อขับเคลื่อนและลดช่องว่างด้านการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิก โดยจะเน้นเรื่องการให้ความช่วยเหลือในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการเชื่อมโยง(Connectivity) เมืองสำคัญเพื่อการค้า การท่องเที่ยว และการสนับสนุนให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการ โดยเฉพาะในสาขาสาธารณสุข รวมทั้งชี้ให้เห็นความจำเป็นของประเทศสมาชิกในการพึ่งพาระหว่างกันมากขึ้น เชื่อมโยงการผลิตและเศรษฐกิจร่วมกัน ทั้งในภาคอุตสาหกรรม การเกษตร และพลังงาน เน้นการส่งเสริมการเป็นฐานการผลิตเดียว ผลักดันให้มีการอำนวยความสะดวกการค้าการลงทุน การข้ามพรมแดน จัดตั้งเมืองคู่แฝดชายแดน(Sister Cities) ยกระดับจุดผ่านแดน รวมทั้งส่งเสริมการยกระดับขีดความสามารถของแรงงาน และการพัฒนา R&D ของประเทศสมาชิก และผลักดันให้ประเทศสมาชิกที่เหลือเข้าร่วมโครงการ ACMECS Single Visa
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะมีกำหนดการเดินทางออกจากท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 ในวันที่ 12 มีนาคม 2556 เวลา 16.30 น. และจะเดินทางถึงประเทศไทยในวันที่ 13 มีนาคม 2556 เวลา 16.15 น.
การประชุม ACMECS เป็นกรอบการหารือระหว่างประเทศลุ่มแม่น้ำโขงที่เป็นสมาชิกอาเซียน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งไทยเป็นประเทศผู้ริเริ่มเมื่อปี 2546 โดยครั้งนี้จะเป็นการติดตามและทบทวนความร่วมมือของ ACMECS ที่ผ่านมา และทิศทางความร่วมมือในอนาคต มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งและความหลากหลายของประเทศสมาชิก เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างสมดุล โดยการประชุมครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อปี 2546 ที่เมืองพุกาม, ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2548 ที่กรุงเทพ, ครั้งที่ 3 เมื่อปี 2551 ที่กรุงฮานอย และเมื่อปี 2553 ที่กรุงพนมเปญ ผ่าน 8 สาขาความร่วมมือ ได้แก่ การอำนวยความสะดวกการค้าการลงทุน(ไทยเป็น Lead Country) การเกษตร อุตสาหกรรมและพลังงาน ความเชื่อมโยงทางคมนาคม การท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สาธารณสุข(ไทยเป็น Lead Country) และสิ่งแวดล้อม