ขณะที่การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลนั้น กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ที่ออกภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ระยะที่สอง (FIDF 3) ที่ครบกำหนดจำนวน 24,653.80 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 1) การปรับโครงสร้าง R-bill จำนวน 23,000 ล้านบาท โดยการใช้เงินกู้ระยะสั้น 11,500 ล้านบาท และเงินทดรองจ่ายที่ยืมจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (Premium FIDF 1 และ FIDF 3) จำนวน 11,500 ล้านบาท และ 2) การปรับโครงสร้างพันธบัตรออมทรัพย์ 1,653.80 ล้านบาท โดยการใช้เงินกู้ระยะสั้น 908.80 ล้านบาท และเงินทดรองจ่ายที่ยืมจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (Premium FIDF 1 และ FIDF 3) จำนวน 745 ล้านบาท
สำหรับการชำระหนี้ของรัฐบาล พบว่าในเดือนก.พ.56 กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้เป็นเงิน จำนวน 5,308.87 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น การชำระหนี้ของรัฐบาลจากงบประมาณชำระหนี้รวม 748.72 ล้านบาท แยกเป็น ชำระหนี้ในประเทศ 223.48 ล้านบาท โดยเป็นการชำระดอกเบี้ย 223.15 ล้านบาท และค่าธรรมเนียม 0.33 ล้านบาท และชำระหนี้ต่างประเทศ 525.24 ล้านบาท โดยเป็นการชำระต้นเงิน 369.93 ล้านบาท ดอกเบี้ย 154.42 ล้านบาท และค่าธรรมเนียม 0.89 ล้านบาท
ขณะที่การชำระหนี้ของรัฐบาลจากแหล่งอื่นนั้น กระทรวงการคลังชำระหนี้โดยใช้เงินจากแหล่งอื่น โดยการชำระหนี้ที่กู้ภายใต้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ (FIDF 1)โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 2 จำนวน 1,602.96 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการชำระคืนตั๋วสัญญาใช้เงินก่อนกำหนด จำนวน 1,600 ล้านบาท โดยใช้เงินที่ได้รับจากเงินหรือสินทรัพย์ของกองทุนฯ และชำระดอกเบี้ย จำนวน 2.96 ล้านบาท โดยใช้เงินที่ได้รับจากเงินนำส่งของสถาบันการเงินให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอัตราร้อยละ 0.46 ของยอดเงินฝากถัวเฉลี่ยของบัญชีที่ได้รับการคุ้มครองและยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน
การชำระหนี้ที่กู้ภายใต้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สองฯ (FIDF 3) จำนวน 2,957.19 ล้านบาท โดยเป็นการชำระดอกเบี้ย จำนวน 2,951.45 ล้านบาทและการชำระค่าธรรมเนียมจำนวน 5.74 ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 2 ที่ได้รับจากเงินนำส่งของสถาบันการเงินให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอัตราร้อยละ 0.46 ของยอดเงินฝากถัวเฉลี่ยของบัญชีที่ได้รับการคุ้มครองและยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน
ส่วนการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจในเดือนก.พ.56 รัฐวิสาหกิจได้มีการกู้เงินในประเทศเป็นเงิน 4,150 ล้านบาท ขณะที่การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจนั้น รัฐวิสาหกิจได้มีการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศเป็นเงิน 500 ล้านบาท